“ไก่อู” บอก ไม่เห็น “บิ๊กตู่” ทำอะไรเพื่อสกัดใครเลย แค่แต่งตั้งที่ปรึกษามาช่วยงาน เผยนายกฯให้อดทน ใครจะวิจารณ์ก็ทำไป ไม่ตอบโต้ ปัดตอบปมนายกฯคนนอก โบ้ยประชาชนตัดสิน ระบุ “สมคิด” หนุน “บิ๊กตู่” เพราะประทับใจ ลั่นไม่รักไม่อินการเมือง เตรียมวางมือหลังเกษียณ
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ระบุว่ามีความมั่นใจว่ารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ และขณะนี้รัฐบาล คสช.กำลังรวบรวมเครือข่ายด้วยการดึงกลุ่มต่างๆ เข้ามาร่วมงาน เช่น แต่งตั้งให้นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชลเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมือง เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่สามารถได้ที่นั่ง ส.ส.เกิน 250 คนในการเลือกตั้ง เพราะ ส.ส.จำนวนดังกล่าวสามารถใช้ลงมติไม่ไว้วางใจล้มรัฐบาลได้ทันทีว่า ตนไม่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.จะทำอะไรเลย ปัจจุบันนายกฯก็บริหารราชการตามปกติ และได้ชี้แจงเรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯไปแล้วว่า นายกฯสามารถตั้งที่ปรึกษาได้ รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเขาพิจารณาแล้วเสนอขึ้นมา นายกฯก็ให้เกียรติถือว่ารัฐมนตรีคงพิจารณาอย่างถ้วนทั่วแล้ว นอกจากนี้ นายสนธยายังเคยทำงานในพื้นที่ภาคตะวันออก สามารถช่วยงานในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ จึงยังไม่ได้ทำอะไรเลยที่จะไปสกัดใคร
ส่วนประเด็นที่นายสนธยามีสถานะเป็นหัวหน้าพรรคพลังชล ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยได้ว่า เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์จึงเลือกให้เป็นที่ปรึกษาด้านการเมืองนั้น พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า คงไม่สามารถตอบได้ว่าเหตุใดจึงต้องเป็นนายสนธยา แต่นายกฯ ไม่ได้จำกัดจำเขี่ยที่ใคร ใครเหมาะสมก็ตั้งคนนั้น หากแต่งตั้งคนอื่นก็ต้องมีคนสงสัยอีกว่าทำไมต้องแต่งตั้งคนนั้น มันสามารถตั้งข้อสังเกตไปได้เรื่อย แต่วันนี้สิ่งที่นายกฯบอกกับทุกคนที่ทำงานในรัฐบาลนี้มี 2-3 เรื่องคือ 1.ขณะนี้เข้าสู่โหมดการเมือง จะพบว่ามีกลุ่มการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบันที่แสดงความเห็น ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง อะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย จะวิพากษ์วิจารณ์ก็ทำไปเถอะ ขอให้ทุกคนที่ทำงานกับนายกฯมีความอดทน ว่าอะไรที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ว่าไป เพราะผลงานของเขาในอดีตกับแนวความคิดของเขาในวันนี้ที่ออกมาพูดว่า ทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะทำให้ประชาชนพิจารณาได้ว่าแต่ละคนที่มีผลงานในอดีตแบบไหน แล้ววันนี้มีข้อเสนอแนะเยอะไปหมด ตกลงฝีมือเป็นยังไง สังคมจะคิดได้เอง ไม่ต้องไปตอบโต้ เว้นแต่ว่าการวิพากษ์วิจารณ์นั้นจะผิดไปจากข้อเท็จจริงจนทำให้เกิดความเสียหาย ก็จำเป็นต้องชี้แจง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่นายวิวรรธนไชยระบุว่าแผนการของรัฐบาล คสช.คือการร่วมมือกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพื่อเป็นแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า “ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเมือง จึงไม่แน่ใจ วาดภาพไม่ออก แต่ถ้าท่านเป็นนักการเมือง จะวาดภาพอย่างไรก็เรื่องของท่าน ขออนุญาตไม่วิจารณ์” ส่วนที่นายวิวรรธนไชยบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่รับเป็น 1 ใน 3 ของบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองใด แต่จะเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ โดยอาศัยช่องทางนายกฯคนนอกตามมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้ แต่จากที่ฟังนายกฯพูด ท่านบอกว่า ณ เวลานี้ยังไม่ได้คิด แต่เรื่องอนาคตต้องดูว่าประชาชนเขาว่ายังไง ทั้งหมดนี้จึงอยู่ที่ว่าจะตีความยังไง”
พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ยืนยันว่าวันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่จะไปขัดแข้งขัดขาใคร เพราะเรามีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน การลงพื้นที่พบปะประชาชนก็ไปทำงาน บางคนอาจจะมองว่าไปหาเสียง เราห้ามความคิดเห็นไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาทุกพรรคการเมืองที่เคยเป็นรัฐบาลในอดีต เมื่อยังไม่ได้กำหนดกติกาของวันที่จะกำหนดการเลือกตั้ง คนที่เป็นรัฐบาลในขณะนั้นเขาหยุดหรือไม่ เขาก็ไม่ได้หยุด เขาคงทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ดูแลทุกข์สุขประชาชนเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น นี่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ จะบอกว่าการทำแบบนี้เป็นการไปหาเสียงล่วงหน้า หรือไปตัดแข้งตัดขาเอาเปรียบคนอื่นก็คงไม่ได้ เพราะทุกคนเคยผ่านบรรยากาศแบบนี้มาแล้ว แล้วคุณก็ทำแบบนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นฝ่ายเจรจาเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า “ไม่เคยเห็นนายสมคิดตอบอย่างนั้น มีแต่นักข่าวที่พยายามไปถาม ท่านก็ไม่ได้ตอบอะไร บอกแค่ว่า เมื่อไหร่รถจะมาวะ เดี๋ยวก็ไล่ออกซะเลย” ส่วนที่ท่านสมคิดเคยบอกว่าพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ในทางการเมืองนั้น คนทำงานด้วยกันมาก็เกิดความซึมซับได้ว่ารูปแบบการทำงานของแต่ละคนเป็นอย่างไร ความประทับใจของคนที่ทำงานร่วมกันย่อมเป็นธรรมดา จะไปว่าท่านสมคิดก็ไม่ได้ เพราะท่านอาจประทับใจการทำงานร่วมกัน ท่านสมคิดคงพูดในลักษณะว่า วันข้างหน้าเป็นเรื่องของอนาคต แต่ในวันนี้ท่านรู้สึกประทับใจในการทำงาน
ส่วนที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และบอกว่าให้รอดูฝีมือของนายสมคิดนั้น พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า “ผมอาจจะเด็กเกินไปที่จะวิเคราะห์เรื่องนี้ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่” ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.สรรเสริญจะไม่เล่นการเมืองหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการ วันนี้มี 3 บทบาท 1.เป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2.รักษาราชการในตำแหน่งข้าราชการพลเรือน และ 3.เป็นข้าราชการกลาโหม เหลืออีก 5 ปีจะเกษียณ เมื่อยังเป็นข้าราชการอยู่ก็ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
“แต่เมื่อไรที่เกษียณอายุไปแล้ว ถามว่าใจรักการเมืองหรือไม่ ไม่เคยรู้สึกรักการเมืองเลย ไม่อิน ไม่ชอบ เพราะผมเป็นทหารมาทั้งชีวิต คนเป็นนักการเมืองต้องเข้มแข็ง อดทนที่จะรับเสียงด่าได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะถูกหรือผิด แต่เราเป็นข้าราชการ ถ้าเราผิดเราจะรู้ว่าผิดและพร้อมจะปรับแก้ไข และขอโทษ แต่ถ้าเราไม่ผิด มีเหตุผล แต่คุณเอาเหตุผลตะแบงข้างๆ คูๆ แล้วเอาปากกาเป็นอาวุธ มันรู้สึกไม่สบายใจ เพราะฉะนั้น อยู่ให้ไกลจากแวดวงนี้ดีกว่า เกษียณอายุแล้วก็พอ แต่วันนี้ยังไม่เกษียณอายุ จำเป็นต้องทำตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย” พล.ท.สรรเสริญกล่าว