จี้’บิ๊กตู่’ทบทวนเปลี่ยนชื่อ’สถานีรถไฟฟ้าบางบัว’เป็น’ศรีปทุม’ เอื้อ ม.เอกชน

‘ศรีสุวรรณ’จี้’บิ๊กตู่’ทบทวนเปลี่ยนแปลงชื่อสถานีรถไฟฟ้าบางบัวเป็นศรีปทุม พร้อมขอให้ตั้งกรรมการสอบผู้ว่า รฟม.และคณะทำงาน ชี้ส่อทุจริต เอื้อมหา’ลัยเอกชน ไม่รับฟังเสียงคนในพื้นที่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 เมษายน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่บางบัวจำนวนประมาณ 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอใช้สิทธิตามมาตรา 43 (3) ของรัฐธรรมนูญ 2560 คัดค้านการเปลี่ยนแปลงชื่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จากสถานีบางบัว เป็นสถานีศรีปทุม

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้รับการร้องเรียนจากชาวชุมชนบางบัว กทม. ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ใช้อำนาจโดยพลการด้วยการเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) จากเดิมที่เคยตั้งชื่อไว้ว่า “สถานีบางบัว” เปลี่ยนไปเป็น “สถานีศรีปทุม” ตามที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมร้องขอ โดยที่ชาวชุมชนบางบัวไม่มีใครทราบเรื่องมาก่อน ทั้งๆ ที่ชื่อบางบัวเป็นสถานที่ที่เป็นชุมชนใหญ่มีประวัติในเชิงภูมินิเวศยาวนานมานับ 100 ปี มีหน่วยงานราชการและเอกชนใช้ชื่อบางบัวประกอบเป็นชื่อหน่วยงาน/องค์กรของตนมากมาย เช่น วัดบางบัว โรงเรียนบางบัว ตลาดบางบัว ฯลฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเหมาะสมดีอยู่แล้ว

ดังนั้น การใช้อำนาจดังกล่าวของ รฟม.น่าจะส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ เป็นการเอื้อให้กับมหาวิทยาลัยของเอกชน ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อกำไรและผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรืออาจเข้าข่ายการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 อีกด้วย เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ2535 ประกอบพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 เนื่องจากการใช้ชื่อ “สถานีบางบัว” ปรากฏอยู่ในเอกสารเผยแพร่เป็นการทั่วไปในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) แล้ว แต่เมื่อมหาวิทยาลัยศรีปทุมทำเรื่องขอให้เปลี่ยนไปใช้ชื่อศรีปทุมแทน รฟม.กลับยินยอมให้เปลี่ยนได้โดยง่าย โดยไม่มีการเปิดเวทีรับฟังเสียงคนบางบัว หรือผู้มีส่วนได้เสียและแก้ไข EIA ตามระเบียบของกฎหมายแต่อย่างใด

Advertisement

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่บางบัว เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตดอนเมือง และเขตหลักสี่ รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ จึงขอใช้สิทธิตามมาตรา 43 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 เพื่อเข้าชื่อกันเสนอแนะมายังนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงคมนาคมและ รฟม.ให้มีคำสั่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อสั่งการให้ รฟม.ทบทวนการเปลี่ยนแปลงชื่อสถานีศรีปทุมกลับมาเป็นสถานีบางบัวดังเดิม ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน รวมถึงให้นายกฯมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมตั้งคณะกรรมการสอบผู้ว่าการ รฟม.และคณะทำงานด้านการตั้งชื่อสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. ว่าใช้อำนาจกระทำการหรือใช้ดุลพินิจไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัยของเอกชนด้วย

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า หากนายกฯไม่ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ สมาคมและประชาชนชาวบางบัวและผู้มีส่วนได้เสียจะขอรักษาสิทธิที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อขอความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image