‘เสี่ยติ่ง’ยันไม่ยึดโยงกลุ่มใด ชี้ชวนนักการเมืองร่วมพรรคเรื่องปกติ ประเมิน ส.ส.โยกย้ายไม่เกิน 5%

‘เสี่ยติ่ง’ยันไม่ยึดโยงกลุ่มใด ย้ำจุดยืนนายกฯต้องเป็นคนดี-มีคุณธรรม ชวนนักการเมืองร่วมพรรคไม่มองเป็นเรื่องดูดนักการเมือง แต่มองเป็นเรื่องปกติ ประเมิน ส.ส.โยกย้ายเปลี่ยนพรรค ไม่เกิน 5%

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 เมษายน ที่โรงแรมมิลาเคิล แกรนด์ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำผู้จัดตั้งพรรคพลังพลเมืองไทย (พพพ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่ พรรค พพพ. ว่า วันนี้สมาชิกเราเกินกว่า 500 คนแล้ว เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด วันนี้ก็คึกคักพอสมควร ทั้งนี้ วันนี้จะเป็นการรับรองข้อบังคับพรรค นโยบายพรรคซึ่งต้องยึดโยงกับยุทธศาสตร์ 20 ปีที่รัฐบาลกำหนด และที่สำคัญคือเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งวันนี้ดูแล้ว สมาชิกอยากให้ตั้งให้ครบเลยทั้ง 35 ตำแหน่ง ทั้งนี้ นโยบายหลักของพรรคมีทั้งหมด 3 ประการ คือ 1.ต้องเทิดทูนสถาบันของชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.พยายามสร้างความปรองดอง และความสามัคคีของคนในชาติ และ 3.การลดความเหลื่อมล้ำของคนไทย

เมื่อถามว่า พรรคจะไม่ประกาศว่าเป็นพรรคของขั้วรัฐบาลเก่า หรือขั้วรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เป็นของพี่น้องประชาชนทุกคนที่มารวมกันวันนี้ ดังนั้น เราจะไม่ยึดโยงว่ากลุ่มใด พรรคใดที่จะเข้ามาบริหาร หลังจากเลือกตั้ง หรือใกล้เลือกตั้งแล้วเราค่อยมาหาข้อสสรุปกัน ทั้งนี้ พรรคเราคงไม่ขนาดได้ส.ส.เป็นอันดับ 1 อยู่ แล้ว เราต้องการส.ส.ที่พอจะเสนอกฎหมายได้ก็พอใจแล้ว

เมื่อถามถึงจุดยืนในการเสนอชื่อนายกฯ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า อย่างที่บอก เป็นคนดี มีคุณธรรม เห็นแก่ประเทศชาติเป็นหลัก ดูแลความเหลื่มล้ำของประชาชนทั่วไป ซึ่งเราไม่ปฏิเสธหากจะมีการเสนอใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ใครมีสิทธิตามธรรมนูญก็เป็นนายกฯได้ หากมีเสียงข้างมากในสภาฯคนนั้นก็เป็น ซึ่งพรรคเราก็อาจมีส่วนเป็นทั้งเสียงข้างมาก หรือเป็นส่วนหนึ่งในเสียงข้างน้อยก็ได้ในสภาฯ แต่ถามถึงความจริงใจ และความจริงจังในการทำงานของเราอยากเป็นฝ่ายตรวจสอบมากกว่า

Advertisement

เมื่อถามว่าพรรคพลังพลเมืองไทย มีจุดยืนที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ เหมือนกับหลายพรรคหรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ต้องรอดูเสียงก่อน ว่าเราจะส่งได้แค่ไหน ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายพรรคการเมือง และกฏหมายเลือกตั้งมีความเข้มข้นกว่าที่ผ่านมาโอกาสที่จะส่งผู้สมัครได้ครบต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาโดยเฉพาะเรื่องไพรมารี่โหวต ดังนั้น จึงยังไม่กล้าพูดว่าจะส่งเท่าไหร่ แต่จะส่งให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

เมื่อถามถึงพลังการดูดนักการเมือง นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนที่นายกฯ บอกว่ามีมาหลายสมัยแล้ว ตนเคยทำพรรคการเมืองมาหลายพรรค ช่วงที่ทำพรรคสามัคคีธรรมก็มีคนมาเชิญชวน แต่สมัยนั้นเขาคงไม่เรียกว่าดูด แต่อาจจะเรียกว่ามาเชิญชวน ตนฟังดูก็เป็นเรื่องที่สนุกสนาน ไม่ได้ซีเรียสอะไร เป็นเรื่องปกตอของคนที่ทำพรรค ที่จะต้องดึงคนที่มีโอกาสเป็น ส.ส.เข้ามาในพรรคเพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ซึ่งพรรคเราก็คงต้องดึงเหมือนกัน แต่ไม่อยากใช้คำว่าดูด ทั้งนี้ ก็ต้องเชิญชวน ทั้งนี้ มองว่า ด้วยกฎหมายใหม่มองว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายไม่เกิน 5% ถือว่าน้อย เพราะส.ส.ทุกคนที่ตนรู้จักมีอุดมการณ์ คนที่จะเปลี่ยนแปลงย้ายพรรคนั้นตนมองว่ามีความจำเป็นเท่านั้นเอง เพราะหากไม่มีความจำเป็นเขาก็ต้องอยู่ที่เดิม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image