วัฒนา เมืองสุข บันทึกไว้ในสถานการณ์

แฟ้มภาพ

วัฒนา เมืองสุข บันทึกไว้ในสถานการณ์

ในความคิดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังมีความจำเป็นต้องควบคุมการแสดงออกของนักการเมือง และนักจัดตั้งมวลชนทั้งหลายอย่างเข้มข้น

ยิ่งในช่วงจะต้องทำประชามติ “ร่างรัฐธรรมนูญ” ซึ่งบางมาตราจำเป็นต้องมีอยู่ด้วยความหวังว่าจะทำให้ “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” มีความราบรื่น

เป็นความจำเป็นที่จะต้องควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ไปสู่ความขัดแย้งวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา

ในสถานการณ์แห่งความจำเป็นดังกล่าวนี้ มีอีกมุมหนึ่งคือ กลุ่มผู้เชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน หรือที่ยืนหยัดในหลักการ “ประชาธิปไตย” เน้นที่ “สิทธิที่เท่าเทียมกันของประชาชนทุกคน” คิดอยากแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา

ADVERTISMENT

ในความจำเป็นของสถานการณ์ช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ประเทศหลุดจากความขัดแย้งรุนแรงไม่รู้จบ ต้องทำให้การเมืองไม่ย้อนกลับไปมีสภาพเหมือนเดิมคือ “เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ถูก” การเน้นเรื่อง “สิทธิ” มากกว่า “หน้าที่” เป็นเรื่องที่มีการจัดการให้ต้องปรับทัศนคติกันใหม่

และเมื่อมาให้น้ำหนักกับ “หน้าที่ของพลเมือง” มากกว่า “สิทธิ” จึงต้องมีบางเรื่องบางราวต้องจัดการตามผู้มีหน้าที่จัดการมองว่าเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของสังคมในปัจจุบัน

นั่นหมายความว่าอาจจะก่อให้เกิดมุมมองที่สะท้อนความไม่สมบูรณ์ตามหลักการประชาธิปไตยสากล

และตรงนี้เองที่เป็นจุดที่ก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดคับข้องกับผู้ที่เคยชินกับสิทธิที่เท่าเทียมตามกลไกประชาธิปไตยที่พัฒนามาแล้วระยะหนึ่ง

การที่ “สิทธิบางอย่างที่จำกัดไว้ให้บุคคลบางกลุ่มมีมากกว่าคนทั่วไป” ทำให้เกิดความรู้สึกดังกล่าวนั้น

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไม่เอื้อให้ผู้มีอำนาจยินยอมให้แสดงออกถึงความไม่เห็นพ้องต้องกันนั้น ยิ่งเป็นการแสดงออกที่อาจจะก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้าน ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากจะ

ยินยอม

มาตรการควบคุมที่เข้มข้นจึงเหมือนจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง และนับวันจะแสดงให้เห็นการเอาจริงเอาจังมากขึ้น แทนที่จะลดราวาศอกไปตามวันเวลาอันเป็นความปกติของการใช้อำนาจ

และเพราะการควบคุมอย่างเข้มข้นจริงจังนี่เอง ทำให้คนที่จะแสดงออกในทางคัดค้านต่อต้าน เสี่ยงจะต้องถูกจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็นนัก

จนบางขณะในบางกลุ่มคนเกิดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ไม่มีคนที่จะมาแสดงออกทางความคิดแทน

และนี่เองที่กลายเป็นความอึดอัด

ในวิถี “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” ดูเหมือนว่าไม่มีใครคิดว่าจะเป็นวีรบุรุษในสถานการณ์ที่ถูกควบคุมการแสดงออกเข้นข้นเช่นนี้

จู่ๆ ก็มี วัฒนา เมืองสุข ที่ทะยานออกมายืนแถวหน้า

พร้อมรับกับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น

รู้ทั้งรู้ว่าทำอย่างนั้นแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต แต่ยังเชิดหน้าที่จะทำ

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีแต่ต้องบันทึกไว้เพื่อเป็นหมุดแห่งความทรงจำ

ว่าการเมืองยุคสมัยเช่นนี้ มีคนอย่าง “วัฒนา เมืองสุข”