คิดเก่า ทำเก่า จากปี 2549 ถึง 2557 ซ้ำรอย ซ้ำซาก

ปรากฏการณ์อันเห็นกันทั่วประเทศและทั่วโลกจากกรณีสนามช้าง อารีน่า บุรีรัมย์ ยืนยันอย่างเด่นชัดในหลักคิดหนึ่งที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย

นั่นก็คือ ต้องการ “ชัยชนะ” โดยไม่คำนึง “วิธีการ” ที่ถูกต้อง ชอบธรรม

ลองย้อนไปดูการเคลื่อนไหวของ “พันธมิตร” ในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เป็นอย่างนี้

แม้กระทั่งคนที่ไปแวดล้อม “พันธมิตร” ก็คิดอย่างนี้

Advertisement

ลองย้อนไปดูการเคลื่อนไหวของ “กปปส.” ในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็เป็นอย่างนี้

แม้กระทั่งคนที่ไปร่วมเป่า “นกหวีด” ก็คิดอย่างนี้

ในที่สุด การเคลื่อนไหวของ “พันธมิตร” ก็ได้ “รัฐประหาร” ในที่สุด การเคลื่อนไหวของ “กปปส.” ก็ได้ “รัฐประหาร”

Advertisement

ได้ “คมช.” ได้ “คสช.”

ถามว่าจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ถามว่าจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 สังคมไทยได้อะไร

อาจตอบว่าได้ขับไล่ นายทักษิณ ชินวัตร

อาจตอบว่าได้ขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

หากถือว่าการที่ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องไปอยู่ต่างประเทศ หากถือว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องไปอยู่ต่างประเทศ ถือว่าได้ชัยชนะ ประสบผลสำเร็จ

แต่การเดินทางไปสนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ เป็นความสำเร็จ เป็นชัยชนะหรือไม่

เพราะว่า นายเนวิน ชิดชอบ ก็เคยเดินที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ขณะ นายทักษิณ ชินวัตร นั่งอยู่บนหลังช้าง มิใช่หรือ

เพราะว่า นายเนวิน ชิดชอบ ก็เคยขับมอเตอร์ไซค์เคียงข้าง นายทักษิณ มิใช่หรือ

ในที่สุด แม้ผ่านรัฐประหารมาทั้งเดือนกันยายน 2549 และเดือนพฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินตามรอยของ นายทักษิณ ชินวัตร

เท่ากับ 10 กว่าปีที่ผ่านมายังเป็นแบบเดิม-เดิม

หากไม่ย้อนกลับไปสรุปบทเรียนจากสถานการณ์ก่อนเดือนกันยายน 2549 สถานการณ์ก่อนเดือนพฤษภาคม 2557 อย่างเข้มงวด จริงจัง

สังคมไทยก็จะไม่ไปไหน

ถามว่าบรรดาคนที่เคยไปร่วมกับ “พันธมิตร” เคยสรุปหรือไม่ ถามว่าบรรดาคนที่เคยไปร่วมกับ “กปปส.” เคยสรุปหรือไม่

แล้วเมื่อเห็นการซ้ำรอยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดอย่างไร

คสช.เป็นตัวอย่างอันเด่นชัดยิ่งของการซ้ำรอย นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะในความพยายามนำเอา “ประชานิยม” มาเป็น “ประชารัฐ” หรือแม้กระทั่งความพยายามในการสืบทอดอำนาจโดยการนำเอาคนที่เคย “รับใช้” นายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นมือทำงาน

ในอีกด้านจึงเท่ากับเป็นการยอมรับต่อความสำเร็จของ นายทักษิณ ชินวัตร

ปมเงื่อนจึงอยู่ที่จะต้องทำความเข้าใจต่อหลักคิดที่ต้องการ “ชัยชนะ” โดยไม่คำนึงถึง “วิธีการ” อันชอบและถูกต้องซึ่งเป็นความผิดซ้ำซาก

จากก่อนรัฐประหาร 2549 ถึง รัฐประหาร 2557

หากไม่ยอมรับว่า “วิธีการ” ที่ไม่ชอบก็ย่อมนำไปสู่ “ผลสำเร็จ” ที่ไม่ชอบ เพราะในความเป็นจริงงาช้างมิอาจงอกออกมาจากสัตว์อื่นซึ่งมิใช่ช้างอย่างเด็ดขาด

ประเทศก็จะวนอยู่กับความผิดพลาดในแบบทศนิยมไม่รู้จบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image