คอลัมน์เหยี่ยวถลาลม เรื่อง อารยชน

ขอแสดงความยินดีกับว่าที่ “นายกรัฐมนตรีอายุมากที่สุดในโลก” มหาธีร์ โมฮัมหมัด ในวัย 92 ปี ที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกครั้ง

ขอชื่นชมในความอดทนต่อสู้ที่ยาวนานกว่า 40 ปีของ “ปากาตัน ฮาราบัน” พรรคการเมืองแนวร่วมฝ่ายค้านมาเลเซียซึ่งประสบชัยชนะให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ประเทศของท่านมีวัฒนธรรมทางการเมืองที่สูงแล้ว เจริญแล้ว กระบวนการ “เปลี่ยนถ่ายอำนาจ” จึงเป็นไปโดยสันติ

หลังเกิดวิกฤตทางเผ่าพันธุ์ในปี ค.ศ.1969 ที่ฆ่ากันอยู่ราว 2 สัปดาห์ ตายเจ็บนับพันคนแล้วก็เกิด “การทบทวนครั้งใหญ่”

ผู้นำและชนชั้นสูงของมาเลเซียเกิด “สำนึกใหม่” นั่นคือ “เอกภาพ” ในความแตกต่างหลากหลายทางเผ่าพันธุ์ สถานะทางชนชั้น และทางเศรษฐกิจ

Advertisement

ภายหลังวิกฤตการณ์ 5 ปี ก็เกิด “แนวร่วมแห่งชาติ” หรือ “บีเอ็น” ขึ้นซึ่งต่อมารวมกันเป็นพรรคการเมือง และได้ชัยชนะเป็นฝ่ายรัฐบาลตลอดมา

ค.ศ.1981 “บีเอ็น” ก็มีนายกรัฐมนตรีชื่อ “มหาธีร์ โมฮัมหมัด”

กระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 1991 “มหาธีร์” คนนี้ประกาศ “วิสัยทัศน์ 2020” อันลือลั่น จะก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสมบูรณ์ในปี 2020

“มหาธีร์” พัฒนามาเลเซียรุดหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา ครองอำนาจยาวนานกว่า 20 ปี
หลังจากวางมือแล้วก็ยังคงสังกัด “บีเอ็น” จนกระทั่งแตกคอ และลาออกจาก “บีเอ็น” เมื่อ ค.ศ.2016 แล้วจับมือกับพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านที่มี “อันวาร์ อิบราฮิม” เป็นผู้นำ

“ปากาตัน ฮาราบัน” สู้ศึกเลือกตั้งตามครรลองระบอบประชาธิปไตย คว้าชัยชนะท่วมท้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพรรคฝ่ายค้านที่สามารถพลิกมาเป็นฝ่ายรัฐบาล โดยที่มี “มหาธีร์” อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 92 เป็นตัวชูโรงจะกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสานต่อ “วิสัยทัศน์” ดังที่เคยประกาศ ก่อนจะล่วงเข้าสู่ 2020

คาดกันว่า “มหาธีร์” น่าจะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีราว 2 ปี จากนั้นก็ถ่ายโอนให้ “อันวาร์ อิบราฮิม” นั่งต่อ

เรื่องนี้น่าศึกษาตรงที่

การต่อสู้อันยาวนานและอดทนของพรรคการเมืองฝ่ายค้านในระบอบประชา ธิปไตยที่ยืนหยัดในแนวทาง “เปลี่ยนถ่ายอำนาจด้วยวิถีทางสันติ”

ไม่มักง่ายใคร่อยากไปเที่ยวชักชวนให้ใครมาทำลายระบบ ด้วยการใช้กำลังอาวุธแย่งยึดอำนาจการปกครอง ล้มกระดานอย่างอนารยชน !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image