หากกรณีการเดินทางไปยังสนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ ได้รับการวัดค่าออกมาเป็น”บวก”
การเดินทางไปยัง”สระแก้ว”ก็ไม่น่ามี”ปัญหา”
ยิ่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงออกมายืนยันอย่างค่อนข้างมั่นใจว่าสถานการณ์ในวันที่ 18 พฤษภาคมอาจจะมีประชาชนกว่า 50,000 คนมารอต้อนรับ
นี่ย่อมคึกคักมากยิ่งกว่าประชาชนกว่า 30,000 คนที่สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ อย่างแน่นอน
จึงแทบไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เดินทางไปยัง”สระแก้ว”
ไม่ว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน จะติดภารกิจหรือไม่ก็ตาม
เพราะไฮไลต์น่าจะอยู่ที่การชูมือมากกว่า
หากในที่สุดแล้วในวันที่ 18 พฤษภาคม จะเป็นเรื่องของรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่น
หรือถูกลดระดับเป็นเพียง”แม่ทัพภาค”
ก็น่าจะมีมูลเชื้อสำคัญมาจากปัจจัย 1 ที่ ที่ปรึกษารองนายก รัฐมนตรีออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คของตนเป็นเรื่องประเภท “ไม่จริง”
เท่ากับเป็นการ “มโน” ไปเองเป็นตุเป็นตะ
ขณะเดียวกัน อีกปัจจัย 1 ซึ่งละเอียดอ่อนและล่อแหลมเป็นอย่างยิ่งก็คือ กรณีที่สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ มิได้เป็น”ผลบวก”ในทางเป็นจริง หากเป็นเรื่องในด้านอันเป็น”ผลลบ”มากกว่า
ความหมายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ก็คือ ที่ตักตวง”ผลบวก”มิใช่ผู้เดินทางไปเยือน หากแต่เป็นเจ้าของสถานที่ หากแต่เป็นคนอื่น ฝ่ายอื่นมากกว่า นั่นต้องวัดจากรอยยิ้มของผู้มาต้อนรับ นั่นต้องวัดจากปฏิกิริยาของพรรคฝ่ายที่คิดว่าอาจเสียประโยชน์
ผลก็คือ สถานการณ์วันที่ 18 พฤษภาคม ต้องแปรเปลี่ยน
ในฐานะที่ไม่ว่านายกรัฐมนตรี ไม่ว่ารองนายกรัฐมนตรีล้วนมีศักดิ์ฐานะเป็น วท.บ.(ทบ.)ด้วยกันทั้งสิ้น
น่าจะใช้หลัก”วิทยาศาสตร์”มา “ตรวจสอบ”
ที่สำคัญก็คือ ตรวจสอบว่าจะมีประชาชนกว่า 50,000 คน จะมีนักปั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปต้อนรับและชูมือ ข่าวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
มาจากปัจจัย”ภายนอก” หรือมาจากปัจจัย”ภายใน”ใกล้ตัว
