เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เดิมทีนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะสามารถเป็นนายกฯคนนอกได้อย่างง่ายดาย แต่ต่อมาก็พบว่าเส้นทางนายกฯคนนอก ไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ จึงได้เปลี่ยนแนวทางใหม่ โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็น 1 ใน 3 บัญชีรายชื่อ ที่พรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกฯ ซึ่งคิดว่ามีโอกาสมากกว่า ดังนั้น จึงต้องมีพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน และพรรคการเมืองนั้น ต้องได้ ส.ส. 25 เสียงขึ้นไป ดังจะเห็นว่าวันนี้มียุทธการดูดนักการเมือง โดยใช้วิธีการแบบอดีต เหมือนกับพวกยึดอำนาจสมัยก่อน ซึ่งหลายคนรู้ว่าวิธีการนี้ไม่ใช่การปฏิรูป เพราะมีการใช้อำนาจ อิทธิพล เพื่อดึงคนเข้าไปเป็นแนวร่วม
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะหลายประเทศมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว เช่น รัฐบาลทหารเมียนมา เอาเปรียบพรรคฝ่ายค้านทุกประการ แต่สุดท้ายประชาชนกลับลงคะแนนเสียงให้นางอองซาน ซูจี เช่นเดียวกับการเลือกตั้งมาเลเซีย ที่พรรครัฐบาลได้เอาเปรียบฝ่ายค้านอย่างมาก แต่สุดท้ายพรรครัฐบาลกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่สำหรับประเทศไทย สมมุติ พล.อ.ประยุทธ์ อาศัย พรรคการเมืองที่มี 25 เสียงเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในขณะที่พรรคอื่นได้คะแนนเสียงเป็นร้อยที่นั่ง ถามว่าคุณยังมีหน้ามาเป็นนายกฯหรือไม่
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งถ้าให้ประชาชนได้ลงคะแนนอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เราจะเห็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง แต่กลไกเกี่ยวกับการเลือกตั้งวันนี้น่าเป็นห่วง เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องเป็นกลาง แต่วันนี้การได้มาซึ่ง กกต.ล้วนมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่อยู่ข้าง คสช. เพราะแต่งตั้งโดย คสช. ดังนั้น ประเด็นนี้จึงน่าห่วง ซึ่งสังคมต้องจับตามอง
