เป้าหมายของ “สปท.” เป้าหมายของ “สนช.” ที่เคลื่อนไหวเสนอตั้ง “คำถามพ่วง” ในประชามติ มี “ความแจ่มชัด”
แจ่มชัด 1 ต้องการจะสอพลอ ประจบประแจง ขณะเดียวกัน 1 อาศัยการสอพลอ ประจบประแจงนั้นเป็นเหมือน “บันไดหก”
บันไดหกไปยังการเป็น “ส.ว.”
เพราะคิดเองเออเองว่า การเสนอขยายบทบาทและหน้าที่ของ ส.ว.เช่นนี้จะสร้างความพอใจให้กับ คสช.
เป็นบทบาทใน “ระยะเปลี่ยนผ่าน”
เป็นหลักค้ำประกันว่า นายกรัฐมนตรี “คนนอก” จะเป็นไปตามความต้องการของ “ผู้มีอำนาจ”
เมื่อมีการคัดสรร “ส.ว.” ก็ “โป๊ะเช๊ะ”
จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากบรรดา “สปท.” นอกจากบรรดา “สนช.”ที่เสนอหน้าในเรื่อง “คำถามพ่วง”นี้
มองเฉพาะหน้า-อาจเป็นเช่นนั้น
แต่ถ้ามองไกลจากเดือนเมษายนไปยังวันที่ 7 สิงหาคมอันเป็นวันลง”ประ ชามติ”
ก็ไม่แน่
เจตนาที่คิดว่า “ดีเลิศประเสริฐศรี” จากบรรดา “สปท.” จากบรรดา”สนช.”เช่นนี้อาจส่งผลไปอีกด้าน
เพราะ “คำถามพ่วง” เท่ากับ “เปิดเปลือย”
เปลือยให้เห็นความ “มุ่งหาผล” ของบรรดา “สปท.” และจากบรรดา”สนช.” อย่างล่อนจ้อน
อาจทำเพื่อให้ “ตัวเอง” ได้เป็น “ส.ว.”
ขณะเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้ข้อครหาที่ว่า “คสช.” ต้องการ “สืบทอดอำนาจ” ปรากฏเป็นจริง
บรรดา”สปท.”อาจสนุก บรรดา”สนช.”อาจสนุก
แต่หากมองผ่านหัวจิตหัวใจของ “ชาวบ้าน” ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะรู้สึก “สนุก” ไปด้วย
เพราะว่า “สนช.” เหล่านี้เป็นอย่างไร เพราะว่า”สปท.”เหล่านี้เป็นอย่างไร
ปาก 1 พวกเขาอาจโจมตี วิพากษ์ วิจารณ์ บรรดา”นักการเมือง”หรือ”นัก เลือกตั้ง”อย่างสาดเสียเทเสีย
เห็นว่าเป็นตัว”ปัญหา”
แต่อีกปาก 1 พวกเขาก็ทำให้ “ชาวบ้าน” ได้รู้จักโฉมหน้าและความเป็นจริงของพวกเขา
ผ่าน “ข้อเสนอ” อันเป็น “คำถามพ่วง”
ยิ่งกว่านั้น หากนำเอา “รายชื่อ”ของสปท.แต่ละท่าน “รายชื่อ”ของสนช.แต่ละท่านมายืนเรียงแถว
ก็จะประจักษ์ใน “ความเป็นจริง”
ความเป็นจริงที่สนช.เหล่านี้มีวิถีทางการเมืองอย่างไร ความเป็นจริงที่สปท.เหล่านี้มีวิถีทางการเมืองอย่างไร
บางคนก็มาตั้งแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549
บางคนก็มาภายหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
หากมีการสืบทอดตำแหน่งผ่านกระบวนการ “ส.ว.” ลากตั้งอีกก็จะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
โดยมิได้ผ่านการเลือกตั้งจาก “ประชาชน”
“คำถามพ่วง”อันมาจากสปท. อันมาจากสนช.จึงเท่ากับเปิด”ตัวตน”ของพวกเขาออกมาอย่างล่อนจ้อน
ล่อนจ้อนกระทั่งอาจก่อปัญหาให้ “ประชามติ”
