พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีวาระเข้าพิจารณา ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำมันปาล์มของกลาง การดำเนินการตามมาตรการทบทวนบทบาทภารกิจของส่วนราชการ การถ่ายโอนภาคกิจภาครัฐ พร้อมขอความเห็นชอบให้ปรับปรุงสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย การประเมินส่วนราชการและข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2559 และขอความเห็นชอบต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิตัล ระยะ 3 ปี (พ.ศ.2559-2561)
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเสนออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร หลังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ปรับลดค่าก่อสร้างงานโยธาลง จาก 95,108 ล้านบาท เหลือ 92,460 ล้านบาท คาดว่าหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบจะใช้เวลา 2-3 เดือน จัดทำราคากลางและเปิดประกวดราคา
ด้านกรมธนารักษ์เตรียมเสนอรายละเอียดโครงการบ้านประชารัฐให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าจะปล่อยเช่าบ้านให้ผู้มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท ในราคาไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท อีกทั้งหลังจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากทั้งโครงการกองทุนหมู่บ้าน วงเงิน 60,000 ล้านบาท, โครงการกองทุนหมู่บ้านเพิ่มเติมตามแนวประชารัฐ วงเงิน 35,000 ล้านบาท, โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท วงเงิน 36,275 ล้านบาท
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมเสนอแนวคิดโครงการส่งเสริมเกษตรกรสร้างงานสร้างรายได้ในระดับหมู่บ้าน 70,000 หมู่บ้าน โดยโครงการดังกล่าวจะให้เงินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างงานสร้างรายได้ร่วมกันของแต่ละหมู่บ้านในการร่วมผลิตและจำหน่าย เช่น ร่วมกันผลิตปุ๋ยเพื่อจำหน่าย การผลิตแปลงผักเพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ หรือเป็นแหล่งน้ำ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการปรับปรุงรายละเอียด
พร้อมกันนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เสนอ 2 โครงการสำคัญเข้าที่ประชุม คือ ให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเพื่อปลูกพืชและทำโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันเหมือนโครงการตำบลละ 1 ล้านบาท และเสนอให้จ่ายเงินสดเพื่อให้เกษตรกรนำไปปรับปรุงดิน แหล่งน้ำ และจัดหาปัจจัยการผลิตในฤดูการผลิตที่จะถึง โดยจังหวัดเป็นผู้รับรองเกษตรกร
นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเชิญนายกรัฐมตรีเป็นประธานประชุมการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล เพื่อวางแนวทางการส่งเสริม และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวภายใต้งบประมาณ 50,000 – 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณกองทุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กระทรวงมหาดไทยที่เบิกจ่าย ไม่หมด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน