คําตอบของประชาชนอันเป็น “สุ่มตัวอย่าง” ของนิด้าโพลต่อคำถามที่เน้นความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยไม่เลื่อนต่อไปอีกมากด้วยความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
แม้ร้อยละ 31.68 จะแสดงความเชื่อมั่นพร้อมกับเหตุผล เพราะบ้านเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้วเชื่อมั่นในความสามารถและความพร้อมของรัฐบาล
และจะได้เป็นแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้
กระนั้น ร้อยละ 57.56 ก็แสดงความไม่เชื่อมั่น พร้อมกับเหตุผลเป็นชุดๆ ว่า 1 เพราะยังไม่มีความพร้อม 1 สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
และ 1 เลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ขาดความเชื่อมั่น
ละเอียดอ่อนเพราะเหตุผลแห่งความไม่เชื่อมั่นด้านหลักยังเป็นเหตุผลเดียวกับที่ คสช.และรัฐบาลแถลงย้ำแล้วย้ำอีก
คำถามก็คือ เป็นความไม่พร้อมของฝ่ายใด
เหมือนกับเมื่อไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลง ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แถลง ความไม่พร้อมจะเป็นของทางด้าน 1 พรรคการเมือง 1 ประชาชน
แต่สภาพความเป็นจริงที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การที่ คสช.และรัฐบาลยังไม่ยอมปลดล็อก มิได้เป็นเหตุผลของพรรคการเมือง มิได้เป็นเหตุผลของประชาชน
หากเป็นเหตุผลของ คสช.และรัฐบาลมากกว่า
ขณะเดียวกัน ยิ่ง คสช.และรัฐบาลทอดเวลาการปลดล็อกพรรคการเมืองออกไปยาวนานมากเพียงใด ยิ่งสะท้อนถึงความไม่พร้อมของ คสช.และรัฐบาลมากกว่า
ความไม่พร้อมประการหนึ่งอ่านได้จาก “นิด้าโพล”
นั่นก็คือ ต่อคำถามที่ว่าพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุดและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ร้อยละ 32.16 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย
ความรู้สึกร่วมอันก่อรูปขึ้นตั้งแต่ประกาศและบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เมื่อเดือนเมษายนมาแล้วก็คือตราบใดที่ คสช.ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้ก็จะยังไม่มี “การเลือกตั้ง” อย่างเด็ดขาด
การยื้อเวลาจากเดือนเมษายน 2560 กระทั่งมาถึงเดือนเมษายน 2561 และจะต่อไปอีกเรื่อยๆ ก็คือเป็นการยื้อเพื่อซื้อเวลาในการสะสมชัยชนะ
เพื่อความมั่นใจว่าจะสามารถ “สืบทอด” อำนาจได้แน่ๆ
แต่ไม่ว่าจะปล่อย “นโยบาย” อะไรออกมา นับแต่ “ประชารัฐ” เรื่อยมาจนกระทั่ง “ไทยนิยม ยั่งยืน” คะแนนของ คสช. คะแนนของรัฐบาลก็ยังไม่ตีตื้น
จึงมีความจำเป็นต้องยื้อ หน่วงและถ่วง “การเลือกตั้ง” ออกไป
คำถามที่เสนอเข้ามาอย่างแหลมคมยิ่งก็คือ หากในที่สุดโรดแมปเลือกตั้งที่จะมีภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีอันต้อง “เลื่อน” ออกไปอีก
จะมีอะไรเกิดขึ้นติดตามมาในทางการเมือง
คําถามนี้เหมือนกับจะเป็นคำถามโดยตรงไปยัง คสช.และรัฐบาล แต่แท้จริงแล้วเป็นคำถามไปยังประชาชนโดยรวมมากกว่าการเลื่อนการเลือกตั้งเคยเกิดมาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น “ปฏิญญาโตเกียว” ล้วนไม่เป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น “ปฏิญญานิวยอร์ก” ล้วนไม่เป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น “ปฏิญญาทำเนียบขาว” ล้วนไม่เป็นจริง
นี่คือความแน่นอนที่ดำรงอยู่กับ “คสช.” อันก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น