วันที่ 19 พฤษภาคม มีพิธี “รำลึก” เนื่องจากเมื่อปี 2553 เกิดเหตุการณ์ “ขอคืนพื้นที่” จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังจากคนเสื้อแดงชุมนุมขับไล่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี การชุมนุมยืดเยื้อ มีการปิดสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญ ระหว่างนั้นมีผู้ไม่หวังดีก่อเหตุรุนแรง สถานการณ์บานปลายจนเกิดการสลายการชุมนุม มีการเผา และมีการยิง มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากหลังเหตุการณ์ยุติ มีความพยายามแสวงหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พยายามถามหาความรับผิดชอบ ปี 2554 รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเรื่องดังกล่าวและส่งสำนวนให้ศาลพิจารณาทิศทางของกระสุน มีการฟ้องร้องนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.เมื่อปี 2553
ปี 2557 เกิดการยึดอำนาจ ข่าวคราวการสืบหาความจริงในเหตุการณ์ดังกล่าวเงียบหาย คดีที่ฟ้องร้องล่าสุด ศาลชี้ว่าฟ้องผิดช่องทาง แทนที่จะส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาและมีมติสั่งฟ้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษกลับยื่นฟ้องคดีอาญาเอง กรณีดังกล่าวจึงยังไม่มีใครชี้ว่าข้อเท็จจริงตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนยื่นฟ้องนั้นถูกหรือผิด ขั้นตอนขณะนี้อยู่ที่ ป.ป.ช. ที่จะพิจารณาว่า จะรื้อฟื้นคดีนี้หรือไม่ เรื่องดังกล่าวกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยื่นให้ ป.ป.ช.พิจารณาไปนานแล้ว แต่ยังไม่มีคำตอบออกมา
กิจกรรมรำลึกเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภา นอกจากจะรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยังต้องหาหนทางป้องกันมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองบานปลายกลายเป็นโศกนาฏกรรมเช่นที่เคยเกิดขึ้น วิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้นอีก จำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ความรุนแรงและการสูญเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับแกนนำคู่ขัดแย้งจะได้ป้องกันมิให้เกิดการสูญเสียอีกในอนาคต ขณะเดียวกันก็สมควรหาคน
รับผิดชอบความสูญเสีย เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ใดทำกรรมไว้ ผู้นั้นจะต้องรับผลกรรมที่ทำมา
