เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ร่วมขับเคลื่อนเดินหน้าและคงความต่อเนื่องในการแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลต่อไป โดยให้เปิดยุทธการกวาดล้างภัยจากยาเสพติดในทุกจังหวัดทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งปี และให้ประสานการทำงานร่วมกับ ป.ป.ส.อย่างใกล้ชิด ในงานด้านการข่าวและการบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุม ขยายผลเชื่อมโยง สาวให้ถึงทุกกลุ่มอิทธิพลและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังให้ได้ โดยไม่มีละเว้น แม้หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง
พร้อมกับขอให้ประเมินผลการทำงานเป็นระยะๆ จากความร่วมมือ ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ เน้นย้ำทุกสถานีตำรวจพื้นที่ต้องร่วมลดภัยยาเสพติดที่ประชาชนในพื้นที่หวาดระแวงให้ได้ หากยังมีแหล่งมั่วสุมและหาซื้อยาเสพติดได้ง่ายในพื้นที่ คงต้องร่วมกันทำงานหนักให้มากขึ้น สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ขอให้จับตาความเคลื่อนไหวของยาเสพติดที่มีมากขึ้น โดยต้องไม่ยอมให้ยาเสพติดขยายตัวเข้าไปทำลายวิถีชีวิตพี่น้องมุสลิมเป็นอันขาด
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรได้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงความร่วมมือในการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 61 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค.60-31 มี.ค.61) โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 157,624 คน ยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก มีมูลค่าสูง โดยเป็นยาบ้าถึง 107,624,342 เม็ด, ยาไอซ์ 6,755 กก., เฮโรอีน 650 กก., กัญชาแห้ง 5,857 กก. และโคเคน 23 กก. ยึดทรัพย์ 810 ราย มูลค่า 342 ล้านบาท
พล.ท.คงชีพกล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบันในภาพรวมว่า แหล่งผลิตส่วนใหญ่ยังอยู่นอกประเทศและนำมาพักคอยตามพื้นที่ชายแดน มีเส้นทางลำเลียงผ่านแดนทางบกเข้าทางพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระจายสู่พื้นที่ชั้นในและลำเลียงออกนอกประเทศผ่านทางน้ำและภาคใต้ การผลิตยาไอซ์ในประเทศมีมากขึ้นโดยการจับกุมของเจ้าหน้าที่พบการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นมากขึ้น สามารถจับและยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก โดยเฉพาะยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ดและยาไอซ์กว่า 100 กก.ในแต่ละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวและการชี้เป้าจากประชาชน จึงอยากขอเตือนผู้เกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังการแสวงประโยชน์จากยาเสพติดให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนที่จะต้องพบจุดจบที่โดดเดี่ยวและว่างเปล่า
