ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
เผยแพร่ |
หลังจากเปิดยุทธการสกัดการเคลื่อนขบวนของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ไม่ให้ออกจากธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีความจำเป็นที่จะต้องมีการสรุปและประเมินผล
มองในทาง “การทหาร” ถือว่า “บรรลุ”
เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถสกัด “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ได้เท่านั้น หากแต่ยังสามารถสยบบรรดา “แดงฮาร์ดคอร์” มิให้ป่วนทำให้สถานการณ์บานปลาย
นอกจากนี้ ยังจับ “แกนนำ” เข้าขัง ณ คุก ได้ถึง 15 คน
จัดข้อหาให้ตั้งแต่ผิด พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ กระทั่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
ปลุกปั่น ยุยง เพื่อโค่นล้มรัฐบาล
กระนั้น หากมองในทาง “การเมือง” ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า ชัยชนะในทาง “การทหาร” จะทำให้ได้ชัยชนะในทาง “การเมือง” ตามมาด้วยหรือไม่
เพราะ “การเมือง” มีรายละเอียด “ซับซ้อน” มากกว่า
ในทางการทหารชี้ขาดอยู่ที่การยึดครอง “พื้นที่” หรือการทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถสำแดงศักยภาพตามเป้าหมายได้โดยราบรื่น
ไม่มีอะไรยุ่งยาก มองเห็นได้ในทางรูปแบบ ในทางกายภาพ
ขณะที่กล่าวในทาง “การเมือง” รายละเอียดมีตั้งแต่การยื้อระหว่าง คสช.กับ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” เป็นอย่างไร
ในทาง “ปริมาณ” คสช.ทุ่มกำลังพลมากกว่า
ไม่เพียงแต่มีกำลังพลจาก น.1 หากแต่ยังดึงเอาสรรพกำลังจากตำรวจภูธรเข้ามาหลายกองร้อยรวมถึงกำลังจากตชด.ค่ายนเรศวร หัวหิน
จำนวนไม่ต่ำกว่า 2,000 ต่อประชาชน “เรือนร้อย”
ในความเป็นจริง การตัดสินใจสลายการชุมนุมโดย “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ถือเป็นจังหวะก้าวอันถือได้ว่าเป็นการถอยในทางยุทธศาสตร์ซึ่งมากด้วยความแหลมคม
เท่ากับเป็น “การรุก” ภายในกระบวนการ “ถอย”
ที่ ว่าการประเมินผลในทาง “การเมือง” มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งกว่าการประเมินผลในทาง “การทหาร” เพราะมีความจำเป็นต้องมองไปยังความต่อเนื่อง
ถามว่าการเคลื่อนไหวจบหรือไม่
หากมองในทางกายภาพเหมือนกับจะจบ กระนั้น หากมองในทางกายภาพก็จบเฉพาะที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น
จุดเริ่มต้นใหม่อยู่ที่ สน.พญาไท อยู่ที่ สน.ดินแดง
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการประสานจากภายในห้องขังของผู้ที่ถูกจับกุม เข้ามายังมวลชนที่เข้ามาพับนกกระดาษและจุดเทียนบริเวณหน้า สน.
เมื่อมองผ่าน “ออนไลน์” ปรากฏการณ์เหล่านี้ “กระหึ่ม”
ไม่เพียงแต่ภาพของโบว์-ณัฏฐา จะกลายเป็น “ไวรัล” หนึ่งที่แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ปฏิกิริยาในทางสากลก็อึกทึกกึกก้อง
ที่คิดว่า “จบ” จึงเท่ากับยัง “ไม่จบ”
กล่าวในทางยุทธวิธีต้องยอมรับว่า “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ดำเนินการแบบเดียวกับทัพโจโฉที่เอาชนะทัพของอ้วนเสี้ยวที่กัวต๋อ
นั่นก็คือ เอาคนหยิบมือหนึ่งไปสู้กับคนนับพัน
จะต่างก็เพียงแต่ที่กัวต๋อเป็นการสัประยุทธ์ทางการทหาร ขณะที่ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริเวณสะพานมัฆวานฯเป็นการสัประยุทธ์ทางการเมือง
ใครแพ้ ใครชนะ จึงแล้วแต่จะมองจากมุมใด