สถานีคิด : ถึงเวลาเอาคืน!? : โดย จำลอง ดอกปิก

ถึงเวลาเอาคืน!?

ไม่เพียงนักศึกษา-กลุ่มชุมนุมครบ 4 ปี คสช.เท่านั้น อยากเลือกตั้งเร็ว
พรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ทุกขั้ว ก็เรียกร้องต้องการเลือกตั้ง แต่ไม่กล้าขยับเคลื่อนไหว
ประชาชนทั่วไป ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักโพล ก่อนหน้านี้ ก็บ่งชี้ อยากให้มีการจัดเลือกตั้ง
คืนอำนาจประชาชน
บ้านเมืองห่างเหินเลือกตั้ง 4 ปีเต็ม
ใครต่อใคร ต่างโหยหาประชาธิปไตย อยากใช้สิทธิกาบัตรเลือกตั้ง แม้แค่ครึ่ง เศษเสี้ยวการมีส่วนร่วมก็ยินดี นี่อาจเป็นเหตุผลพื้นๆ
มิพักต้องพูดถึงด้านหลัก ต้องการเปลี่ยนแปลง หลุดพ้นจากสถานการณ์พิเศษในปัจจุบันโดยเร็ว
เมื่อกลิ่นเลือกตั้งโชย จึงปรากฏความเคลื่อนไหวขนานใหญ่
ตอบรับการเลือกตั้งทั่วไป
โดยเฉพาะนักการเมือง คึกคักเป็นพิเศษ
กล่าวสำหรับฝ่ายการเมือง-นักการเมืองนั้น
มองแบบมีอคติ อาการดีอกดีใจออกนอกหน้า อาจเนื่องจาก อดอยากปากแห้งมานาน
แต่พวกปากมัน ก็เคลื่อนไหวหนัก และมากกว่าด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่าปากแบบไหน เมื่อลงแข่งขัน เสนอตัวตามกติกา ย่อมได้ชื่อว่า เข้าสู่กระบวนการที่มีที่มาชอบธรรม พร้อมรับการตัดสินจากประชาชน
ฝ่ายต่างๆ ฟันธงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีความเข้มข้น แข่งเดือดระหว่างพรรคการเมือง
เนื่องจากมีเดิมพันสูง
และเดิมพันของฝ่ายประชาชน ก็ยิ่งสูงเป็นเท่าทวีคูณ
ที่แน่นอนที่สุดก็คือ เมื่อถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนเจ้าของอำนาจ ย่อมได้เวลาเอาคืน แต่จะถึงขั้นทบต้นทบดอกหรือไม่ อาจเร็วเกินไป การเมืองมันมีเงื่อนไข ตัวแปร สลับซับซ้อน ไม่ได้ตรงไปตรงมาเสียทั้งหมด
แต่การเมืองตามระบบ มีข้อดีและหลักประกันแบบนี้
กล่าวคือครบเทอม หรือถึงเวลา หากไม่พอใจ ก็เลือกใหม่ เปลี่ยนใหม่ได้
แต่น่าเสียดาย การเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนผ่าน มิได้ตัดสินโดยตรง-วัดกันด้วยเสียงไว้วางใจจากประชาชนอย่างเดียว
กติกาเปิดช่องคนนอก ไม่ต้องลงเลือกตั้ง แต่พึ่งพาอาศัยใบบุญรัฐธรรมนูญ ตีตราเป็นคนในระบบ มีนั่งร้าน 250 ส.ว.เป็นฐานรองเข้าสู่ตำแหน่งได้
แม้การลงคะแนนเสียง เป็นภาพสะท้อนความต้องการของประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลง ถอนพิษ เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันพิเศษ ลดทอนความสำคัญคะแนนเสียงประชาชน
อย่างไรก็ตาม การเช็กบิลสั่งสอน ไม่ได้มีเฉพาะการลงคะแนนเสียง เลือกตั้งในระบบเท่านั้น
การแข่งขันระหว่างพรรค ที่ยื้อยุด แย่งชิงตัวผู้สมัครอย่างอึกทึกครึกโครมอยู่ในเวลานี้
ว่ากันว่า จะมีรายการเอาคืนด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น วันนี้ถนนทุกสายบ่ายหน้าสู่ภาคอีสาน เพราะมีจำนวนที่นั่ง ส.ส.สูงสุด และเป็นฐาน
ที่มั่นใหญ่พรรคเพื่อไทย
หากต้องการล้มแชมป์ให้ได้ ต้องตัดทอนลดขนาดเพื่อไทย พื้นที่อีสานจึงมีความหมาย
จึงไม่แปลก ที่ปรากฏข่าวคราวความเคลื่อนไหว ย้ายพรรค เปลี่ยนพรรคมากที่สุด
พรรคการเมือง นักการเมือง มองย้ายพรรค เปลี่ยนค่ายเรื่องธรรมดา โปรโมชั่น เงื่อนไขพิเศษจูงใจ ก็ไม่แปลกอีกเหมือนกัน
ทุกครั้งก็เป็นแบบนี้
การเลือกตั้งปี 2557 ก็เหมือนกัน มีการชักดาบ เบี้ยวเงิน ผิดข้อตกลงวุ่น
แต่กรณีหนักหนาสาหัส เป็นที่จดจำก็คือพฤติการณ์พรรคการเมืองในอีสาน
ทั้งที่ผ่านกระบวนการสมัคร ติดเบอร์พรรคเรียบร้อย แต่กลับไม่จ่ายเงิน บางรายได้ก้อนแรก 1-2 แสน จากนั้นติดต่อแกนนำ หัวหน้าพรรคไม่ได้อีก เพราะรู้วงใน รู้ว่า 2 กุมภาฯส่อโมฆะ จึงปิดโทรศัพท์หนี
ลอยแพผู้สมัคร
วันนี้พรรคเก่า เจ้าประจำ เคลื่อนไหวหนักอีกครั้ง
แต่อดีตผู้แทนไม่วางใจ บ้างจ้องเอาคืน คิดบัญชีเก่า
วิธีการไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ในแวดวงการเมืองพอเดาออก คงสับขาหลอกกันหลายชั้น
การเลือกตั้งครั้งนี้ เราอาจได้เห็นการสั่งสอน ถอนแค้นหลายระดับ
ตั้งแต่เรื่องไม่ลับ สนุกๆ ที่ได้นำมาเล่า ระหว่างพรรคการเมือง นักการเมือง ที่ปกติเรื่องหักหลัง เบี้ยวเงินทองที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีใครนำมาโพนทะนาแฉโพย รับรู้กันแต่ในหมู่พรรคการเมือง
การสั่งสอน ถอนแค้นก็อยู่ในวงแคบ
ไปจนถึงการสั่งสอนระดับประเทศ ที่อาจได้เห็นการเช็กบิล ด้วยการลงคะแนน ถอนพิษ ในระบบอย่างเปิดเผย ผ่านผลการเลือกตั้ง
เป็นผลการเลือกตั้งที่สะท้อนความต้องการของประชาชน
ไม่ใช่พิธีกรรมสร้างความชอบธรรมการโหวตที่มีแต้มต่อในรัฐสภา

จำลอง ดอกปิก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image