โครงร่างตำนานคน : ‘สุวิทย์ ทองประเสริฐ’ อนิจจังแห่ง‘พุทธะอิสระ’

‘สุวิทย์ ทองประเสริฐ’
อนิจจังแห่ง‘พุทธะอิสระ’

แม้คดีที่ตำรวจในชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมอาวุธหนัก จำนวนมากบุกกุฏิวัดอ้อน้อย นครปฐม จับกุม พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ “พุทธะอิสระ” เจ้าอาวาส จะเป็นข้อหาเป็นข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และสนับสนุนให้ปล้นทรัพย์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2557

ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความสงสัยไม่น้อยว่าการกระทำตามหมายจับนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน และช่วงที่ผ่านมา “นายสุวิทย์” ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้หลบหนีไปซ่อน จนไม่สามารถตามตัวได้พบ ในบางครั้งยังเดินทางขึ้นลงสำนักงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียด้วยซ้ำ

Advertisement

ทำไมจึงไม่มีใครจับกุมในตอนนั้น

และถึงวันนี้การจับกุมจึงทำกันอย่างอึกทึก เหมือนเข้าจับกุมอาชญากรใหญ่ ทั้งที่ตามภาพในคลิป “พุทธะอิสระ” นอนหลับอยู่คนเดียว

เป็นการถูกจับกุมในสภาพพระภิกษุ ด้วยอยู่ในฐานะเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย

Advertisement

นี่ย่อมเป็นความผิดปกติแน่นอน

ดังนั้น เมื่อมีความพยายามของใครบางคนที่จะบอกว่าปฏิบัติการของตำรวจเป็นการกระทำที่เกินเลย ไม่สมควร เพราะถึงอย่างไร “ก็เป็นพระ” อย่างน้อยควรแสดงความเคารพต่อผ้าเหลือง

จึงมีคนบางคนเห็นดีเห็นงามร่วมตำหนิตำรวจ ถึงกระทั่งบางคนแสดงออกถึงอาการรับไม่ได้กับปฏิบัติการของตำรวจครั้งนี้

ทว่าดูเหมือนนั่นจะเป็นเรื่องของความรู้สึกของบางคนเท่านั้น

ทั้งที่สถานะของ “พระภิกษุ” หรือ “ผู้อยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์” หรือ “ผ้าเหลือง” นั้น การถูกกระทำเช่นนั้นสำหรับสังคมไทยน่าจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “พระที่มีภาพของผู้ให้ความเชื่อถือศรัทธา” มากมาย ย่อมมีความจำเป็นต้องระมัดระวังในการเข้าไปแตะต้องอย่างยิ่ง

ความน่าสนใจจึงอยู่ที่ทำไม เจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งน่าจะประเมินได้ว่าเรื่องราวใดเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแค่ไหนได้มากที่สุด จึงเลือกที่จะเข้าจัดการกับ “พุทธะอิสระ” เหมือน “ไม่ใช่พระ” ด้วยความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะไม่ส่งผลอะไรต่อจิตใจของพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่

ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ ทั้งที่ฝืนต่อความเสี่ยงในเรื่องละเอียดอ่อน ด้วยปฏิบัติการเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนซ้ำยังปล่อยให้มีการถ่ายทำคลิปวิดีโอแสดงภาพปฏิบัติการมาเผยแพร่ดังเป็นผลงานชิ้นโบแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้กลับทำด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง

มั่นใจจะไม่มีศรัทธาในระดับที่ส่งผลกระทบ

ที่น่าสนใจตามมาอีกก็คือ เรื่องราวดำเนินต่อไปเหมือนจะยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้คิดถูกแล้วที่ไม่เห็นว่า “พุทธะอิสระ” เป็นพระ

แค่ถอด “ผ้าเหลือง” ออก “พุทธะอิสระ” ก็เป็นแค่ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ สำหรับคนส่วนใหญ่

คนที่รู้สึกว่าเป็น “ปฏิบัติการที่คุกคามศาสนา” นั้น มีเพียงบางคนเท่านั้น

นี่เป็นความน่าสนใจยิ่ง ในสภาวการณ์ที่เป็นห่วงกันว่า “พุทธศาสนา” อันมี “พระรัตนตรัย” เป็น “สรณะ” จะเสื่อมลงจากศรัทธาของประชาชน

ในอีกด้านหนึ่งอาจจะสะท้อนว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีปัญญาเข้าถึง “พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” ที่แท้
แยกแยะได้ว่า “พระสงฆ์ที่ควรยึดถือเป็นสรณะ” นั้น

เป็นแบบไหน

การ์ตอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image