09.00 INDEX คำ”ขอโทษ” จาก”ทำเนียบรัฐบาล” “จุดตัด”แหลมคมในทาง การเมือง

คำขอโทษต่อกรณี “นายสุวิทย์” อันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
มีลักษณะเป็น “จุดตัด” อย่างสำคัญ
ไม่เพียงแต่ทางด้าน “การศาสนา” หากแต่ยังเด่นชัดยิ่งในทาง “การเมือง”
เท่ากับเป็น “รูปธรรม” ในการ “เลือกข้าง”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจได้คะแนนจากบรรดาศิษยานุศิษย์ของ “นายสุวิทย์” แต่ก็สร้าง ความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก “พฤฒิกรรม”ในกาลอดีตเมื่อครั้งยังเป็น “พุทธอิสระ”
ในห้วงก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ การออกมา”ขอโทษ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นไปในทางส่วนตัวหรือไม่เป็นไปในทางส่วนตัว

หากดูจากคำแถลงของ 2 โฆษกก็เด่นชัด
คนหนึ่งแถลงในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกคนหนึ่งแถลงในฐานะโฆษกกระทรวงกลาโหม
นั่นเท่ากับแถลงในนาม”นายกรัฐมนตรี”
นั่นเท่ากับแถลงในนาม “รองนายกรัฐมนตรี”และ”รัฐมนตรีว่า การกระทรวงกลาโหม

คำแถลงนี้ย่อมมีผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
จุดอ่อนเปราะอย่างที่สุดก็คือ เงาสะท้อนแห่งการเลือกปฏิบัติ ต่อ “นายสุวิทย์”เป็นอย่างหนึ่ง แต่ต่อคนอื่นเป็นอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
สัมผัสได้จากเป็นการเลือก “ขอโทษ” แต่กับ “นายสุวิทย์” แต่ละเลยต่อพระอื่นหรือคนอื่น
นี่คือรูปธรรมแห่งลักษณะ 2 มาตรฐาน ดับเบิล สแตนดาร์ด

Advertisement

พลันที่คำ “ขอโทษ”ดังออกมาจาก”นายกรัฐมนตรี”ประสานกับของ”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”สายตาที่มองไปยังทำเนียบรัฐบาล
ย่อมไม่เหมือนเดิม
ความสงสัยที่ก่อรูปตั้งแต่ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็เริ่มมีความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าใครเป็นฝ่ายเดียวกับ”นายสุวิทย์”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image