“วิษณุ” เตือน “ธนาธร” คำพูด “ฉีก รธน.” ระวังจะเป็นปัญหา คนพูดต้องรับผิดชอบเอง ชี้ถกพรรคการเมืองไม่มีคำสั่งระบุว่าต้อง มิ.ย. บอกหากเงื่อนไขมาก คสช.ต้องคิดแล้วว่าทำทำไม
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีการประกาศนโยบายกลางที่ประชุมพรรคถือว่าเป็นการขัดกฎหมายหรือไม่ ว่า “ไม่น่าจะผิดอะไร ถือเป็นการแสดงประกาศเจตนารมณ์ ยังไม่ถึงกับเป็นนโยบายพรรค เพราะถ้าเป็นนโยบายพรรคจะต้องไปพูดกันในที่ประชุมพรรค เหมือนกับตอนนี้ที่ใครๆ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันเยอะแยะ น่าจะอย่างนั้น ควรจะอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วนายธนาธรกับพรรคอนาคตใหม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเขาจะเดินหน้าอย่างไร เนื่องจากตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเขาจะเสนออะไรอย่างไร จึงตอบไม่ถูก
เมื่อถามถึงกรณีที่นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ได้ประกาศจะเขามาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าเป็นปรปักษ์กับรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้แล้วหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “คงไม่ใช่ เขายังไม่ได้บอกว่าจะแก้อะไร ส่วนกรณีที่ระบุว่าจะมีการแก้ไขมาตรา 279 ผมคิดว่า ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะพูดอย่างนั้น คนอื่นก็พูดเยอะแยะไป ไม่มีปัญหาอะไร แต่สุดท้ายจะแก้ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงกับระบุว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง นายวิษณุกล่าวว่า “คำพูดว่าจะฉีกทิ้งนั้นต้องขีดเส้นใต้เอาไว้เลย เพราะถือว่ารุนแรงและอาจทำให้เป็นปัญหาได้ ในยามนี้อย่าไปพูดอะไรให้เป็นปัญหา พยายามพูดให้มันอยู่ในร่องในรอยดีที่สุด” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า อาจมีคนนำจุดที่ขีดเส้นใต้ไปฟ้อง นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่ตอบเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ผมไปเปิดช่อง หรือว่าไปปราม ห้ามปรามอะไร ใครพูดอะไรทุกคนก็ต้องรับผิดชอบตัวเองไปก็เท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้ากรณี คสช.และรัฐบาลเตรียมนัดพรรคการเมืองหารือเรื่องการเลือกตั้งในเดือน มิถุนายนนี้ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ทราบ จะเป็นวันไหนก็ยังไม่รู้ เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่ระบุว่าจะเข้าร่วมในการหารือดังกล่าวหากมีการไลฟ์สด นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่า พรรคอนาคตใหม่มีอยู่ในรายชื่อที่ถูกเชิญเข้าร่วมในการหารือหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคนเชิญ ต้องไปถาม คสช. แม่น้ำทุกสาย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อถามว่าใครจะเป็นคนเคาะรายชื่อที่จะถูกเชิญ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความรับผิดชอบในหน้าที่ของใครอย่างไร แต่ในคำสั่ง คสช. บอกเอาไว้ว่าเมื่อมีการประกาศใช้กฎหมาย แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้เพียงคาดว่าจะประกาศใช้ในเดือนมิถุนายน แต่เดิมเราคาดว่าจะประกาศในเดือนมิถุนายน จึงได้พูดให้เป็นรูปธรรมว่าน่าจะเป็นเดือนมิถุนายนที่จะนัดกัน แต่ถ้าถึงเดือนมิถุนายนแล้วยังมองไม่เห็น ว่าประชุมไปโดยที่กฎหมายยังไม่ประกาศ ความชัดเจนก็ยังไม่มี ก็อาจจะต้องทบทวนเรื่องวันเวลากันใหม่ อย่างไรก็ตาม การระบุเดือนมิถุนายน ไม่ได้ถูกพิมพ์เอาไว้ในคำสั่ง คสช.
“ตอนนั้นที่พูดกัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็นึกว่าจะลงล็อกเป็นเดือนมิถุนายน แล้วผู้สื่อข่าวก็มารบเร้าสอบถาม จึงได้พูดไปว่าเป็นเดือนมิถุนายน ซึ่งถ้านับดูก็คาดว่าจะประมาณเดือนมิถุนายน แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรออกมา และยังไม่ได้ทูลเกล้าฯขึ้นไปเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ความคิดที่ว่าจะประกาศประมาณเดือนมิถุนายน จึงเป็นไปไม่ได้ แต่อีกไม่กี่วันก็จะถึงเดือนมิถุนายนแล้ว แต่ คสช.ก็เคยบอกว่า ถ้าจำเป็น อยากจะพบก่อนโดยไม่เกี่ยวกับการประกาศใช้กฎหมายก็ได้ ก็ยินดี แต่เมื่อทำท่าว่าจะไม่ยินดียินร้าย ไม่อยากพบ เงื่อนไขมาก จะต้องถ่ายทอดสดบ้าง ทุกพรรคบ้าง ต้องกำหนดวันบ้าง คสช.ก็ต้องคิดใหม่ว่า เอ๊ะ! แล้วทำทำไม” นายวิษณุ กล่าว
