เรียงคนมาเป็นข่าวประจำวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 : โดย กาแฟป่า

วันที่ 29 พฤษภาคม 2561 - 12:19 น.

ผู้บริหารยุคใหม่ - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการผู้บริหารยุคใหม่ และบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “คุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล” สำหรับผู้บริหารยุคใหม่แก่นักศึกษาระดับปริญญาโท คณะรัฐมนตรี มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “รู้สึกเสียใจที่มีข้าราชการไปโกงเงินคนจน” ณ หอประชุมอาคารสปอร์ต คอมเพล็กซ์ โดยมี ผศ.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี นำคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ร่วมรับฟังบรรยายที่ม.กรุงเทพธนบุรี

⦁…จนได้ “นายกฯลุงตู่” กับ “รองนายกฯลุงป้อม” ออกมาขอโทษผ่าน “โฆษก” ว่าตำรวจเข้าจับกุม “พุทธะอิสระ” รุนแรงเกินไป งานนี้แน่นอนได้ใจ “บรรดาชาวนกหวีด” และเชื้อสายของกลุ่มม็อบปิดเมือง ที่ “อดีตพระพุทธะ” เป็นแกนนำปักหลักที่ “บ้านทรงไทย” แจ้งวัฒนะ ทำเอาศูนย์ราชการเวลานั้นเป็น “อัมพาต” ไป
⦁…แต่ขออภัย ในสายตาประชาชนทั่วไป การขอโทษครั้งนี้ไม่เป็นผลดีกับ “ลุงตู่-ลุงป้อม” และยังเข้าข่าย “2 มาตรฐาน” อีกด้วย เพราะที่ผ่านๆ มา ตำรวจ-ทหาร เข้าจับกุม เชิญตัวใครต่อใคร ด้วยวิธีการแบบเดียวกันนี้ ง่ายๆ ก็ เสก โลโซ ไม่เห็นนายกฯ หรือว่ารองนายกฯออกมา “ขอโทษ”

⦁…งานนี้ก็เป็นอย่างที่กลุ่ม “เสื้อแดง” อย่าง ก่อแก้ว พิกุลทอง หรือ
วรชัย เหมะ ที่บอกว่า มีตัวอย่างมากมาย ที่ชาวเสื้อแดงโดนบุกจับ-เชิญตัวด้วยความรุนแรง ถ้าจะให้เป็นมาตรฐานก็ต้องให้ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ปรับปรุง
ระบบการเข้าจับกุม ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยคำนึงว่า ทุกคนยังเป็น
“ผู้ต้องหา” ที่จะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมกันอีก

⦁…พรรคอนาคตใหม่ ประชุมใหญ่ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เลือก ธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค พร้อมโฆษกพรรค กรรมการบริหารสายต่างๆ ก็น่าสนใจว่า “ย่างก้าว” ต่อไป
จะเป็นอย่างไร คะแนนนิยมจากโซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์จะมีผล
อย่างไรใน “สนามเลือกตั้งจริง”

⦁…เป็นประเด็นให้จับตา เมื่อศาลฎีกานัดฟังคำสั่งในคดีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่มี อานนท์ นำภา พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ เป็นแกนนำ ฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวก ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 จากกรณีรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 โดยนัดในวันที่ 22 มิ.ย. เวลา 09.30 น.
โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งยกมาแล้ว

⦁…สวนดุสิตโพลสำรวจ “ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้” พบว่า ใน “ด้านการเมือง” อันดับ 1 ร้อยละ 49.39 ชาวบ้านห่วง “การเลือกตั้งและประชาธิปไตยของบ้านเมือง” อันดับ 2 ร้อยละ 27.07 กังวล “พฤติกรรมที่ไม่ดีของนักการเมือง” อันดับ 3 ร้อยละ 24.42 กังวล “การบริหารประเทศและเสถียรภาพทางการเมือง”

⦁…ส่วนด้านเศรษฐกิจ อันดับ 1 ร้อยละ 74.77 กังวล “ค่าครองชีพสูง ของกินของใช้ราคาแพง น้ำมัน ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา” อันดับ 2 ร้อยละ 31.80 “ค้าขายไม่ดี การเงินฝืดเคือง” อันดับ 3 ร้อยละ 24.77 “เศรษฐกิจของประเทศไม่ดี ต่างชาติไม่กล้ามาลงทุน”

⦁… ด้านสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ มาแรงอันดับ 1 ร้อยละ 39.85 คือ “ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” อันดับ 2 ร้อยละ 35.38 “ปัญหาปากท้อง รายได้น้อย รายจ่ายเยอะ เป็นหนี้” อันดับ 3 ร้อยละ 28.72 “ความเหลื่อมล้ำทางสังคม มีความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนสูง”

⦁…เมื่อถามว่า กังวลด้านไหนสุด คำตอบอันดับ 1 คือ “เศรษฐกิจ” สอง ชีวิต
ความเป็นอยู่ และสาม คือ “การเมือง” ทั้งหมดคือภาพของ “บ้านเมืองประเทศไทย” ของเราเวลานี้ เป็นโจทย์ของชีวิตประชาชน ที่ต้องแก้ไขด้วยการบริหารงานใน “สภาพปกติ” หลังจากอยู่กันมา 4 ปี ด้วยระบบพิเศษ แต่บัดนี้ก็พิสูจน์ชัดในระดับหนึ่งแล้วว่า “ได้ผลหรือไม่ได้ผล”