สะท้อน สะเทือน
หลายพรรค หลายกลุ่ม
ใต้ร่มเงา ‘คสช.’
ในที่สุด แรงสะเทือนจากกรณี นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ จะตกกระทบ
ไปยัง 2 พรรคการเมืองที่อยู่ภายใต้ปีกของ คสช.
1 คือ พรรคพลังประชารัฐ 1 คือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ยิ่งคนที่ออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ มากเพียงใด ยิ่งจะทำให้สถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย อาการหนัก
หนักพอๆ กับ พรรคประชาชนปฏิรูป
หนักพอๆ กับ พรรคพลังชาติไทย พรรคทางเลือกใหม่ หรือแม้กระทั่งพรรคพลังธรรมใหม่ที่อาศัยบารมีจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
ความเลวร้ายอันมาจาก นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ คือ ภาพฟ้อง
เป็นภาพฟ้องไปยังสถานการณ์ก่อนเดือนกันยายน 2549 เป็นภาพฟ้อง
ไปยังสถานการณ์ก่อนเดือนพฤษภาคม 2557
แล้วจะรอดปลอดภัยไปได้อย่างไร
คําถามพื้นๆ ก็คือ บทบาทของ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ มีความสัมพันธ์กับพันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตยหรือไม่
มีความสัมพันธ์กับ กปปส.หรือไม่
ก็ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ คนนี้คือผู้นำด้านจิตวิญญาณของแกนนำแห่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมิใช่หรือ
คำตอบก็เห็นๆ กันอยู่
ก็ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ คนนี้คือผู้ที่ร่วมส่วนในการ “ชัตดาวน์” และสกัดขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มิใช่หรือ
ยิ่งภาพการเจิม “หน้าผาก” แพร่หลายยิ่งแจ่มชัด
เท่ากับว่าการเกิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรค
พลังธรรมไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคทางเลือกใหม่
แนบแน่นยิ่งกับ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ
ความเงียบอันมาจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต่อกรณีของ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เหมือนกับ
เป็นความชาญฉลาด ณ เบื้องหน้าความร้อนรุ่มของสถานการณ์
แต่ปฏิกิริยาอันมาจากคนอื่นๆ เล่า
ที่สำคัญ ยังเป็นปฏิกิริยาอันมาจากบางคนที่ถึงขนาดเรียกร้องให้นำอำนาจตามมาตรา 44 สั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.
นี่ย่อมเป็นผลสะเทือนจากการเปล่งคำ “ขอโทษ”
ไม่ว่าจะดังก้องกังวานมาจากภายใน “ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะดังก้องกังวานมาจาก “กระทรวงกลาโหม”
เหมือนกับเป็น “ขนม” พอสมกับ “น้ำยา”
แต่คำถามอันตามมาอย่างฉับพลันทันใดก็คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ในฐานะ ผบ.ตร.ปฏิบัติตามคำสั่งของใคร
คำตอบก็คือ ผู้บังคับบัญชา
กรณีของ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ จะดำเนินไปตามบทสรุปสำนวนไทยแต่โบราณที่ว่า เป็นกรณีในกระบวนการ “ลากพิษติดหาง”
เพราะว่า “พิษ” มาจาก นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ
เพราะว่าไปติดอยู่กับหางของพรรคประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลังชาติไทย พรรคทางเลือกใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ด้วย
ถึง “วันเลือกตั้ง” ประชาชนจะให้ “คำตอบ”
