เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวกรณีข้อเสนอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เสนอฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ทิ้ง หากได้เป็นรัฐบาล ว่าการฉีกรัฐธรรมนูญเป็นภาษาพูดเท่านั้น ในความเป็นจริงเราเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งวิธีการก็เหมือนที่เคยแก้ไขมาตรา 211 ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2534 จนได้รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ทั้งนี้ เรายืนยันว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเราดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และตามขั้นตอนทุกประการ
นายชำนาญกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 จะแก้ไขยากมาก แต่พรรคเรามีจุดยืนชัดเจนในเรื่องนี้ ก็คงหาฉันทามติจากพี่น้องประชาชน หากเลือกพรรคเราเข้ามาอย่างถล่มทลายก็แสดงว่าประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายหลักของพรรคที่จะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพราะครอบคลุมทุกสิ่งทั้งปัญหาปากท้อง การกระจายอำนาจ สิทธิเสรีภาพ ฯลฯ ซึ่งมาตราต่างๆ มันเกี่ยวพันกันหมด ถ้าได้แก้ทั้งฉบับก็จะสอดรับกับสิ่งที่พรรคเราประกาศไว้ คือปลดล็อก ปรับโครงสร้าง เปิดโอกาส ดังนั้นไม่ว่าจะมีเสียง ส.ว.250 เสียงอยู่ในมือก็ตาม คงไปฝืนฉันทามติจากประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ได้
เมื่อถามว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะกลายเป็นความขัดแย้งหรือไม่ นายชำนาญกล่าวว่า จะไปขัดแย้งได้อย่างไร เราทำตามกฎหมาย ไม่มีวิธีการใดที่จะไปละเมิดกฎหมายเลย ความแตกต่างด้านความคิดเป็นเรื่องธรรมดา คนที่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มี ขณะที่คนไม่ชอบก็มีเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้ต้องวัดกันที่การเลือกตั้งว่าฉันทามติของประชาชนต้องการอะไร
“การเสนอประเด็นฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับของคุณธราธรเป็นการใช้ภาษาพูด คงไปจี้จุดใจดำคณะรัฐประหาร ผมขอชี้แจงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และคุณวิษณุ อย่าไปติดใจคำพูดว่าฉีกรัฐธรรมนูญเลย ความหมายจริงๆ ก็คือการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเท่านั้น อย่าไปสงวนลิขสิทธิ์การฉีกรัฐธรรมนูญให้ใช้เฉพาะคณะรัฐประหารอย่างเดียว ผมไม่รู้ว่าพวกเขาโกรธหรือเปล่านะที่มีคนแย่งซีน” นายชำนาญกล่าว
