ไก่อู รับลูกบิ๊กตู่ ฉะ โฆษก กต.สหรัฐฯศึกษาข้อมูลก่อนวิจารณ์-อย่าทำต่อมิตรเช่นนี้

ไก่อู ฉะ โฆษก กต.สหรัฐ ศึกษาข้อมูลก่อนวิจารณ์

เมื่อวันที่ 7 เมษายน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เรียกร้องให้จำกัดอำนาจของทหารลง หลังมีคำสั่ง คสช. ที่ 13/2559 ออกมา ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวมีสาระสำคัญ เพื่อให้ทหารร่วมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการจับกุม ปราบปราม มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล และผู้กระทำการอันเป็นภัยต่อสังคม อาทิ ค้ายาเสพติด ซึ่งกระบวนและขั้นตอนการติดตามจับกุมโดยปกติทำได้ล่าช้า มีความเสี่ยง และอาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ส่งผลให้กลุ่มผู้กระทำผิดจำนวนหนึ่งไม่เคยถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยคำสั่งฉบับนี้ ช่วยสนับสนุนให้สามารถจับกุมผู้ทำตัวเป็นภัยต่อสังคมได้รวดเร็วขึ้น ปกป้องดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ และนำผู้กระทำผิดขึ้นสู่การพิจารณาของศาล

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนผลการตัดสินลงโทษจะออกมาเป็นเช่นไรขึ้นกับการใช้ดุลยพินิจซึ่งเป็น อำนาจของศาลสถิตยุติธรรม ที่ไม่มีผู้ใด หรือ องค์กรใดก้าวล่วงได้ และไม่ว่าจะขึ้นศาลทหาร หรือศาลพลเรือน การพิจารณาก็ใช้ระบบสามศาล รวมทั้งใช้กระบวนการพิจารณาไม่แตกต่างกัน ตนอยากแนะนำให้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ใช้เวลาศึกษาเนื้อหาในคำสั่ง คสช.ฉบับดังกล่าวให้รอบคอบก่อนแสดงความคิดเห็น เพราะเมื่อวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความถูกต้องย่อมจะทำให้เสียภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อตนเอง หน่วยงาน และประเทศสหรัฐอเมริกา หากไม่มีโอกาสได้ศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง สามารถขอคำอธิบายได้จากท่านทูต หรือเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่พร้อมให้ข้อมูลตลอดเวลาตามบัญชาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งต้องระมัดระวังการได้มาซึ่งข้อมูลที่จงใจบิดเบือนให้คลาดเคลื่อนจากบรรดาบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ถูกจ้างวานมาด้วยเจตนาเคลือบแฝงและเป็นพิษต่อประเทศไทย ซึ่งผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นมิตร ไม่ควรกระทำต่อมิตรเช่นนี้”

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า หลายครั้งที่รัฐบาลไทยรู้สึกไม่ยินดีต่อท่าทีและการแสดงออกเช่นนี้ เพราะสหรัฐอเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าและให้ความสนใจในเรื่องข้อมูลข่าวสาร จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่า จะไม่รู้หรือไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดีอาญา กับกลุ่มในประเทศไทยที่พยายามกระทำผิดกฎหมายความมั่นคงและความสงบทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง  เพื่อยั่วยุให้เจ้าหน้าที่จับกุม แล้วนำมาอ้างว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน  ซึ่งถือเป็นการอ้างที่ยอมรับไม่ได้ หากมีบุคคลกระทำผิดกฎหมายของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าเป็นสิทธิมนุษยชนที่จะกระทำ เชื่อว่าบุคตลนั้นคงไม่รอดพ้นจากการถูกลงโทษ ดังนั้นอยากเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ  ใช้มาตรฐานเดียวกันกับหลักการปฏิบัติในประเทศของท่าน ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์ประเทศอื่น