“วิษณุ” ลั่น ดอน ไม่จำเป็นต้องลาออก อยู่จนกว่าศาลจะชี้ขาด ชี้ ปมสปิริตเป็นดุลพินิจส่วนตัว(คลิป)

“วิษณุ” ลั่น ดอน ไม่จำเป็นต้องลาออก บอกยังทำงานได้ตามปกติ จนกว่าศาลจะชี้ขาด หลัง กกต.ฟันขาดคุณสมบัติ ยอมรับ เห็นใจ เพราะ “เมีย” ทำธุรกิจครอบครัว ไม่คิดว่าเป็นปัญหา

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 1 มิถุนายน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีว่า ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ทราบแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก กกต.ว่าใครผิดหรือไม่ผิด เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่กระแสข่าวนี้ที่ระบุว่า กกต.มีมติ 3 : 2 คงไม่ใช่ปัญหา หากนายดอนมีความผิดจริง กตต.ต้องยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อชี้ขาดต่อไป เพราะคู่สมรสของนายดอนมีหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทราบเท่านั้นเอง โดยที่ประชุม กกต.ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่มีความผิด เพราะนายดอน ดำรงตำแหน่งก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ ส่วนอีกฝ่ายเห็นว่าผิดเพราะต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน จึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ดังนั้น ประธาน กกต.จึงออกเสียงชี้ขาดว่านายดอนผิด เพื่อที่จะได้ส่งให้ศาลชี้ขาด จะได้เป็นบรรทัดฐาน และคำวินิจฉัยชี้ขาดนี้ จะนำไปใช้กับนักการเมืองต่อไปในอนาคต เพื่อป้องกันปัญหา

เมื่อถามว่า นายดอนจำเป็นต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็น และเคยมีตัวอย่างมาแล้วในอดีต นายดอนยังทำงานต่อไปได้ตามปกติ ส่วนจะแสดงสปีริตลาออกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของนายดอน ส่วนตัวตอบไม่ถูก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีข้อกังวลใดๆ ขณะนี้ก็กำลังเตรียมการไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ซึ่งนายดอน ก็ได้ดูแลเตรียมการให้นายกฯเดินทางอยู่ นายดอนยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งทาง กกต.ก็เห็นว่าไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าศาลตัดสินว่านายดอนผิด ก็จะต้องปรับ ส่วนจะปรับอย่างไรไม่ทราบ แต่กระทรวงการต่างประเทศ ยังมีรัฐมนตรีช่วยฯอยู่ จึงไม่ถือเป็นภาระอะไร ไม่เกิดปัญหาเหมือนกระทรวงอื่น ที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยฯ

Advertisement

“กรณีนายดอน ไม่เหมือนกับคนอื่น เพราะนายดอนเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ตอนเป็น กฎหมายยังไม่ระบุเรื่องถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วพออยู่มามีรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เรื่องนี้ออกมา นายดอนก็ไม่ได้ทำอะไร จึงทำให้เกิดปัญหา ว่าผิดหรือไม่ผิด แต่หุ้นไม่ใช่ของนายดอน เป็นของภรรยา ซึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะกฎหมายบอกว่า ถ้าถือหุ้นเกิน 5เปอร์เซ็นต์ จะต้อง 1.แจ้งประธาน ป.ป.ช. 2.โอนหุ้นนั้นให้คนอื่นจัดการ เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพราะภรรยาของนายดอนมีมรดก จึงมาตั้งบริษัทภายในครอบครัวเพื่อทำคอนโดมิเนียม และถือหุ้นกันเองภายในพี่น้อง 7 คน โดยไม่มีคนอื่น เป็นการจัดการกันเองในครอบครัว ไม่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้น จึงมีการพูดถึงความสุจริต กกต. จึงได้ออกเสียง 2 : 2 จนประธาน กกต.ต้องชี้ขาด เป็น 3 : 2 ให้ศาลตัดสินเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ว่าหุ้นที่เป็นบริษัทภายในกันเองเช่นนี้ จะทำได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าภรรยานายดอน คงคิดว่าเป็นเรื่องมรดกภายในจึงไม่ได้แจ้ง

เมื่อถามว่า ตอนร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้มองว่าอาจจะเป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่รัฐธรรมนูญเขียนไม่ชัด แล้วทิ้งไว้ให้ ป.ป.ช. และ กกต.ชี้เอาเอง ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะเขียนไม่หมด เพื่อรอการตัดสิน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image