เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาถึงโรงเรียนรัฐราษฎร์อนุสรณ์ ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่อปฏิบัติราชการจ.นครสวรรค์และจ.ชัยนาทในเวลา 09.20 น.
จากนั้นนายกฯพร้อมคณะเดินทางมาที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ โดยมีนายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจ.นครสวรรค์ และข้าราชการท้องถิ่นให้การต้อนรับ
นายกฯกล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้พูดบ้างตนพูดมาเยอะแล้วตั้งใจว่าจะพูดให้น้อยลง และที่พูดทั้งหมดเป็นการปฏิรูปประเทศไทยเราจะคิดแบบเดิมอยู่แบบเดิมไม่ได้ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาทั้งระบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ราคาสินค้าสูงขึ้น
“วันนี้อยากจะฆ่าคน 3 คนที่ 1 คนออกแบบเต็นท์ คนที่ 2 คนเช่าเต็นท์ รู้มั้ยมันร้อนมาก พูดเล่นนะ ชาวบ้านร้อนจะตาย ที่ลุกหนีไม่ได้ลุกลี้ลุกลนเบื่อนายกฯพูด แต่เป็นเพราะร้อน วันนี้ตนไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นนักการประชารัฐ ผมไม่ต้องการคะแนนแต่ต้องการแรงใจ ตั้งใจว่าปีนี้จะอารมณ์เสียและพูดให้น้อยลง เขาบอกว่าเป็นนายกฯต้องอดทน” นายกฯกล่าว
นายกฯกล่าวว่า วันนี้ผู้ที่แข็งแรงกว่าต้องช่วยคนที่แข็งแรงน้อยกว่าไม่ใช่เอาเปรียบคนที่อ่อนแอ วันนี้ได้เห็นความก้าวหน้าหลายประการตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายกลุ่มได้ทำ วันนี้ความคิดไม่มีวันสิ้นสุดเพราะทุกคนมีสมอง 3 ส่วน อย่าคิดส่วนเดียว ต้องใช้สมองให้ครบไม่ใช่ใช้อะไรมานำความคิดอย่าให้การเมืองนำ มันไม่ใช่ ต้องใช้สติปัญญาการเป็นประชารัฐต้องร่วมมือทางความคิดด้วย พระพุทธเจ้าบอกว่าสติปัญญาเป็นบ่อเกิดคุณธรรม ทุกคนต้องทำความดีอะไรคือดีชั่วรู้หมด ฉะนั้นทำความดีไม่ต้องดีเลิศประเสริฐศรี ต่อไปนี้เจอหน้าตนทักทายคำเดียวประชารัฐ ซึ่งประชารัฐมี 3 ระดับ ระดับบนคือรัฐบาล ทุกคนในประเทศนี้คือกลไกประชารัฐวันนี้ตนเข้ามาเพื่ออย่างนี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อสร้างปัญหาแต่เข้ามาเพื่อให้ปัญหาคลี่คลายรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศทำอย่างไรไม่ให้ล้มลงถ้าล้มลงทุกคนอยู่ไม่ได้ฉะนั้นก็ต้องมีการปฏิรูปและการปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลงซึ่งเราคิด 11 ด้าน 37 วาระ
นั่นแหละคือการปฏิรูป รัฐบาลนี้เข้ามาทำตลอดสิ่งที่อยากให้ทุกคนทำคือการปฏิรูปตัวเองปฏิรูปความคิดร่วมมือกันสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นมาเป็น 10 ปีเพราะความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้เมื่อ เมื่อเกิดวิกฤตก็ใช้วิกฤตเป็นโอกาสวิกฤตของตนคือการโดน ตำหนิแต่ขอให้เอาที่ตนถูกตำหนิมาเป็นโอกาสให้กับทุกคน
นายกฯกล่าวว่า กิจการสำคัญวันนี้เราแก้ปัญหาประเทศมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมปี 57 ชีวิตตนชีวิตท่านมีค่าเท่ากันต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ปีนี้ปีที่ 2 ยังอยู่ในระยะที่ 2 ต่อไปจะมีการเลือกตั้งจะเลือกได้หรือเปล่าตนไม่รู้ แต่วันนี้ต้องใช้สติปัญญาให้มากไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามอย่านึกถึงตัวเองอย่างเดียวต้องคิดถึงครอบครัวสังคมและประเทศชาติ
ใครที่เป็นหนี้รัฐกรุณาช่วยใช้หนี้ด้วยแต่ถ้าเป็นหนี้นอกระบบก็ต้องไปแก้ไข ซึ่งวันนี้มี พ.ร.บ.การทวงหนี้แล้วถ้าที่ไหนมีปัญหาคสช.ลุยหมด
“สิ่งผมมาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อเป็นเกียรติหรือเรียกคะแนนเสียงแต่มาดูแลปัญหาของพวกท่าน ไม่ได้มาให้เงินแต่ให้การเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนพร้อมๆ กัน เพื่ออนาคตของลูกหลานวันนี้จะคือประวัติศาสตร์ในวันข้างหน้า และอยากให้ประชาชนรู้การทำงานของรัฐบาลทั้งหมด ท่านจะได้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง” นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่าขอให้รักผมน้อยๆ แต่รักนานๆ และขอให้รักรัฐมนตรีของผมด้วยไม่ใช่ไล่กันอย่างเดียว วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้ได้โดยเร็ว
ที่ผ่านมาต่างประเทศก็มาพบตนที่ทำเนียบเยอะ ฉะนั้นอย่าไปเชื่อที่มีการบิดเบือนว่าต่างชาติไม่คบตนเอง
นายกฯกล่าวว่า ผู้นำท้องถิ่นอย่าแบ่งแยกกันต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีจะนำไปสู่ความขัดแย้งไม่ได้ต้องนำไปสู่ความปรองดองความร่วมมือ ต้องไม่มีการเมือง การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลไม่เคยปิดบังอะไรสักเรื่องฉะนั้นอย่าไปเชื่อ การบิดเบือน บริหารประเทศคิดตลอด ถ้าคิดแบบสับปะรังเคไม่ต้องมาเป็นและวันหน้าใครมาเป็นรัฐบาลให้มาเปิดแผนการทำงานให้ดูแบบรัฐบาลนี้ ตอนนี้รัฐบาลทำทุกอย่าง ไม่ใช่พูดอย่างเดียวต้องศึกษา ด้วยทั้งการบริหารจัดการน้ำ การจัดโซนนิ่งการปลูกพืชผลทางการเกษตร อย่าเชื่อเรื่องการทุจริตวันนี้ไม่มีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานนายกฯ ได้ขึ้นรถอีแต๊กเพื่อเยี่ยมชมแปลงพืชผักและการสาธิตการตลาด ต่อด้วยการปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม จากนั้นเวลา 12.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ห้องประชุมประพันธ์ศิริ ชั้น 2 อาคารสำนักบริหารจรูญ – หทัย มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.