เหมือนกับว่าจบแล้ว เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยอาศัยการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเกราะคุ้มกัน ในการใช้สูตร “ส.ส.พึงมีที่ต่างกัน” ทำให้เชื่อกันว่า “พรรคพลังประชารัฐ” สามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้เกินครึ่งอย่างสบายๆ
สูตรรัฐบาลที่ออกมาเป็นพรรคร่วม 20 พรรคคือ พลังประชารัฐ, ประชาธิปัตย์, ภูมิใจไทย, ชาติไทยพัฒนา, รวมพลังประชาชาติไทย, ชาติพัฒนา, พลังท้องถิ่นไท, รักษ์ผืนป่าประเทศไทย, พลังชาติไทย, ประชาภิวัฒน์, ไทยศรีวิไลย์, พลังไทยรักไทย, ครูไทยเพื่อประชาชน, ประชานิยม, ประชาธรรมไทย, ประชาชนปฏิรูป, พลังพลเมืองไทย, ประชาธิปไตยใหม่, ไทรักธรรม รวมกันแล้ว 253 เสียง
เกินครึ่งสภาล่างไป 3 เสียง
โดยพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่มี มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ออกอาการเซไปเซมาทำท่าจะร่วมอีก 6 เสียง
นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินขึ้นสู่เก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ต่อไปได้รื่นฉลุย
ข้อกังวลว่าการทำรัฐประหารจะ “เสียของ” เหมือนที่เคยพูดถึงยึดอำนาจของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นอันทิ้งไปได้
ยังครองอำนาจต่อไปหลังเลือกตั้งได้สำเร็จตามภารกิจที่วางไว้
เพียงแต่แม้จะดูเหมือน ทว่าหากมองตามเกมแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังต้องเหนื่อยอีกไม่น้อยกับภาระ “ต้องไม่เสียของ” นี้
คนวงในย่อมทราบกันดีว่า ที่ต้องโฟกัสไปที่บทบาทของ “พล.อ.ประวิตร” นั้น เนื่องจากการจัดการประสาน และวางเกมต่างๆ เพื่อจัดการให้ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จนั้น ผู้มีมีบทบาทหลักคือ “พล.อ.ประวิตร”
และคงไม่เพียงแต่ช่วงประสานจัดการให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จเท่านั้น หลังรัฐบาลเดินหน้าทำงาน คนที่จะต้องรับบทบาทหนักในการประสาน ควบคุมพรรคร่วมรัฐบาลร้อยพ่อพันแม่ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับอำนาจทั้งหมด จะยังเป็น “พล.อ.ประวิตร”
เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการเรียกขาน
ไม่ว่าตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะนั่งในเก้าอี้อะไรก็ตาม แต่ภารกิจที่ “บิ๊กป้อม” ต้องแบกรับคือ “ผู้จัดการรัฐบาล”
“น้องตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะควบคุมการบริหารบ้านเมืองอย่างไรก็ว่าไป
แต่การจัดการ ควบคุม และหาหนทางทุกอย่างเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาล ทำให้อยู่มาได้ และเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง อันเป็นความหมายแท้จริงของ “ไม่เสียของ” คือ “พล.อ.ประวิตร”
การสร้างผลงานให้ได้รับความพึงพอใจจากประชาชนเป็นบทบาทของ “น้องตู่”
แต่การประคับประคอง หาหนทางฟันฝ่าอุปสรรค โต้คลื่น ต้านลม เพื่อให้รัฐนาวาดำรงอยู่ได้เป็นภาระอันหนักอึ้ง บนบ่าของ “พี่ป้อม”
เมื่อ กกต.ประกาศรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ตามสูตรที่ใครก็คาดไม่ถึง
ทำให้ดูเหมือนว่า “ฝ่ายต่อต้าน” เกมโอเวอร์ไปเรียบร้อย
แต่ในฐานะ “ผู้จัดการ” ที่ต้องฝ่าฟันให้ไปถึงเป้าหมาย “ไม่เสียของ”
“พล.อ.ประวิตร” ยังมีภารกิจหนักหน่วงต้องออกแรงเต็มพลังอีกไม่น้อย
แต่จัดการให้ “ภูมิใจไทย” กับ “ประชาธิปัตย์” ไม่แกว่ง ให้เกิดความพอใจที่จะทำงานร่วมกัน ก็มีรายละเอียดของภารกิจ ทั้งด้านเบา ด้านหนัก ด้านลึก ด้านกว้าง
ชนิดที่มือประสานธรรมดา ยากจะทำให้สำเร็จได้
เป้าหมาย “ไม่เสียของ” ยังเป็นภาระที่ “บิ๊กป้อม” ต้องแบกหลังแอ่นต่อไป อย่างยากจะหาคนอื่นมาทำหน้าที่แทน
