รายงาน : คำเก่า คนเก่า ข้ออ้าง ถึง ‘ประชาชน’ น้ำยา บ้วนปาก

บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้คึกคักเป็นอย่างมาก 1 เป็นความคึกคักต่อคนในพรรคด้วยกัน และ 1 เป็นความคึกคักต่อคนพรรคอื่น

อย่างกรณีของ นายธนกร วังบุญคงชนะ เป้าคือ “ภูมิใจไทย”

อย่างกรณีของ นายสกลธี ภัททิยกุล เมื่อประสานเข้ากับกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป้าน่าจะเป็นคนในพรรค

ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ คือ ไม่เห็นด้วยกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ

Advertisement

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เห็นว่าเป็นปัญหาในเรื่อง “มารยาท” เพราะพรรคพลังประชารัฐเชิญเขาเข้ามาร่วม

ตัวเองเป็น “เด็ก” ไม่ควรเล่นไกลไปถึง “หัวหน้าพรรค”

ความน่าสนใจก็คือ ข้อความระหว่างบรรทัดของ นายสกลธี ภัททิยกุล ได้ไขออกมาไม่เพียงเสียมารยาทต่อพรรคการเมืองอื่น หากเป็นการเสียมารยาทภายในพรรคด้วย

Advertisement

จึงทุบโต๊ะลงไปว่า “น่าละอาย”

กรณีที่มีความพยายามจะเปิด DEAL ใหม่เด่นชัดแล้วว่าเป็นปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ มิได้เป็นปัญหาจากพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคภูมิใจไทย

เป็นเพราะคนของพรรคพลังประชารัฐต่างหากที่หงุดหงิด

เป็นเพราะความหงุดหงิดนั่นเองทำให้บางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐนำเอา “โควต้า” ของพรรคพลังประชารัฐไปต่อรอง

อย่างเช่นเอากระทรวงศึกษาธิการไปแลกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อย่างเช่นเอากระทรวงพลังงานไปแลกกระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือแม้กระทั่งกระทรวงพาณิชย์

รากฐานของ “ปัญหา” อยู่กับใคร เรื่องนี้ดูไม่ยาก

เพียงดูว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ มาอย่างไรและเคยเดินตามหลังใครมาก่อน เพียงดูว่า นายสกลธี
ภัททิยกุล
เดินเข้าทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับใคร

เท่านี้ก็โยงสายยาวไปได้โดยอัตโนมัติ

ต้องยอมรับว่าปัญหาเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเพียงพื้นฐาน และเมื่อไม่สบอารมณ์ก็จะกลายเป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังหลังจากประกาศรายชื่อ ครม.ออกมา

หากได้ก็ยิ้ม หากไม่ได้ก็ต้องหงุดหงิด

ไม่ว่าจะมองภายในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคภูมิใจไทย

ล้วนหนีไม่พ้นจากพอใจและไม่พอใจ

ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มี 53 เสียงอยู่ในมือ ในเมื่อพรรคภูมิใจไทยมี 51 เสียงอยู่ในมือก็ย่อมจะมีฤทธิ์มีเดชเป็นธรรมดา

เช่นเดียวกับคนที่อยู่ข้างหลัง นายธนกร วังบุญคงชนะ

เช่นเดียวกับคนที่อยู่ข้างหลัง นายสกลธี ภัททิยกุล เช่นเดียวกับคนที่อยู่ข้างหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

นี่คือปัญหาที่สะสมตั้งแต่ก่อน “รัฐบาล” ขับเคลื่อน

ทั้งหมดนี้แม้จะดำเนินการภายใต้การเดินหน้าประเทศไทย โดยเอ่ยถึงประโยชน์ประเทศชาติ ประโยชน์ประชาชนไม่ขาดปาก

แต่จากวันที่ 5 มิถุนายนเป็นต้นมา ชาวบ้านอ่านออก

อ่านออกว่าแท้จริงแล้วคำว่าประชาชนก็คือ พรรคของตัวเองต้องได้กระทรวงนั้น กระทรวงนี้ ตัวเองต้องได้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้

การอ้าง “ประชาชน” จึงไม่ต่างไปจาก “น้ำยาบ้วนปาก”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image