สังคมจะประเมินการออกมาของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านในการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือธงนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร
ไร้เดียงสา
ไม่รู้หรืออย่างไรว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเป็นหัวหน้า คสช. ไม่รู้หรืออย่างไรว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือคนตั้ง กรธ.
ให้ กรธ.ออกมายกร่าง “รัฐธรรมนูญ”
ยิ่งกว่านั้น เนื่องจาก “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” เพื่อให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถือ “ธงนำ” ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างไร
กระนั้นก็ไม่ควรลืมว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือ 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงในที่ประชุมรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 163
อันเท่ากับเป็น “คำมั่น” อันเท่ากับเป็น “สัญญาประชาคม”
หากมองจากองค์ประกอบภายใน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน หากมองจากปฏิกิริยาอันตามมาเหมือนกับเป็นลูกคลื่นในทางการเมือง
ยิ่งนาน ยิ่งเห็นว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ไร้เดียงสา
ลองไปพลิกหนังสือ “36 กลยุทธ์แห่งชัยชนะในการสัประยุทธ์ทุกปริมณฑล” อัน บุญศักดิ์ แสงระวี แปลมาจากต้นฉบับภาษีจีนอ่าน
ก็จะประจักษ์ว่า นี่คือความเขี้ยว
เพราะเด่นชัดยิ่งว่า นี่คือกลยุทธ์ในการเข้าตี ไม่ว่าจะเรียกว่า “ตีหญ้าให้งูตื่น” ไม่ว่าจะเรียกว่า “ยืมซากคืนชีพ”
ไม่ว่าจะเรียกว่า “ล่อเสือออกจากถ้ำ”
ไม่ว่าจะเรียกว่า “แสร้งปล่อยเพื่อจับ” ไม่ว่าจะเรียก “โยนกระเบื้องล่อหยก” ไม่ว่าจะเรียกว่า “จับโจรเอาหัว”
ยิ่งกว่านั้นยังเท่ากับเป็นการ “ยืมหอกสนองคืน”
อย่างน้อยเมื่อ 7 พรรคฝ่ายค้านเสนอเป็นคำถาม เสนอเป็นคำเรียกร้องก็จะมีตัวบุคคล 2 คน 2 กลุ่ม ตกอยู่ในสภาวะร้อนตัว
1 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะเดียวกัน 1 ย่อมเป็นพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นพรรคที่มีพันธกิจอย่างเต็มเปี่ยมกับการแสดงบทบาทในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพราะนโยบายนี้ผลักดันมาจากพรรคประชาธิปัตย์
เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ตั้งเป็นเงื่อนไข 1 ใน 3 ของการเข้าร่วมรัฐบาล หากไม่มีการสนองรับ 53 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ยอมขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
251 เสียงของ ส.ส.ก็จะเหลือเพียง 198
เช่นนี้เองในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม จึงมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรจุอยู่ในฐานะเป็นนโยบาย “เร่งด่วน”
นี่คือ “คำมั่น” นี่คือ “สัญญาประชาคม”
การนำเอาหอกอันประกาศเป็น “นโยบาย” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สนองคืนไปเป็นคำถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จึงนับว่าแหลมคม และคมแหลม
เป็นความชอบธรรมที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจักต้องเสนอเป็นคำถาม เพื่อตรวจสอบความสุกงอมอย่างแท้จริงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แล้วสังคมก็ได้ “คำตอบ” แล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ “คำตอบ”
