นักการเมืองคนหนึ่ง พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เราจะ “ประเมิน” บทบาทและความหมายของเขาและของพรรคจากบรรทัดฐานอย่างไร
จากคำพูด จากแถลงการณ์
พื้นฐานเช่นนี้ยากเป็นอย่างยิ่ง เพราะแทบไม่มีนักการเมืองคนใดที่พูดไม่ดี พูดไม่เป็น เนื่องจากนักการเมืองล้วนสะสมวิทยายุทธ์ในด้านนี้
เช่นเดียวกับพรรคการเมือง
ในระหว่างการเคลื่อนไหว ในระหว่างการหาเสียงเพื่อสร้างคะแนนนิยม ทุกพรรคการเมืองล้วนแถลงแต่ในเรื่องดีๆ สอดรับกับอารมณ์ความรู้สึกของคน
ทั้งนักการเมือง ทั้งพรรคการเมืองล้วนเปี่ยมด้วย “กัปปิยโวหาร”
ไม่ว่าประวัติศาสตร์ยุคหลังรัฐประหาร 2490 ไม่ว่าประวัติศาสตร์ยุคหลังรัฐประหาร 2500 ไม่ว่าประวัติศาสตร์ยุคหลังรัฐประหาร 2540
ใครที่หลงเชื่อคำพูด ใครที่หลงเชื่อแถลงการณ์มักผิดหวัง
ประวัติศาตร์สอนให้เรารับรู้ การรับฟังและหลงเชื่อเพียงคำพูดอย่างเดียวไม่สมบูรณ์ เพราะในที่สุดแล้วคำพูดหรือแถลงการณ์ต้องตรวจสอบผ่านการกระทำ
การปฏิบัติที่เป็นจริงต่างหากคือคำตอบ
ถามว่าเหตุใดจึงได้มีการเรียกขานนักการเมืองบางคนว่า “ดีแต่พูด” เหตุใดจึงได้มีความรู้สึกต่อพรรคการเมืองหลายพรรคว่าเป็นพรรคซึ่ง “ดีแต่พูด”
คำตอบอยู่ที่การกระทำสวนทางกับคำพูด
ภาวะถดถอยของหลายพรรคการเมืองล้วนได้รับการตรวจสอบผ่านกระบวนการปฏิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า ขอให้ดูจากการเลือกตั้งนับแต่เดือนมกราคม 2544 เป็นต้นมา
อะไรคือเหตุแห่งการล่มสลายของแต่ละพรรคการเมือง
ถามว่าความเป็นจริงของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร ถามว่าความเป็นจริงของพรรคชาติไทยเป็นอย่างไร ถามว่าความเป็นจริงของพรรคชาติพัฒนาเป็นอย่างไร
คำตอบสุดท้าย คือ การปฏิบัติ
พรรคการเมืองเกิดขึ้นได้ ล่มสลายได้ บางพรรคอาจประสบชะตากรรมเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่าง
อยุติธรรมในทางการเมือง
อย่างการยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
แต่แล้วพรรคการเมืองก็ยังสามารถผงาดเด่นขึ้นมายืนได้อย่างทระนงองอาจ นั่นก็เพราะว่าสังคมรู้ว่าได้รับความอยุติธรรม
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยยังดำรงความเป็นพรรคภาพที่มีลักษณะสร้างสรรค์อยู่
ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นมา มีพรรคการเมืองจำนวนมากเสนอตัวให้สังคมพิจารณาและกลั่นกรอง
ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคอนาคตใหม่
พรรคเหล่านี้ล้วนเข้าสู่กระบวนการหล่อหลอมและการตรวจสอบจากสังคมเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา
ความเป็นจริงในปัจจุบันจะเป็นคำตอบที่เที่ยงธรรมที่สุด
เนื่องจากพรรคการเมืองประกอบส่วนขึ้นมาจากสมาชิก การดำรงอยู่ของพรรคการเมืองจึงเป็นการดำรงอยู่อย่างมีชีวิต มีจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณต้องผ่านการปฏิบัติ
การปฏิบัติในแต่เรื่อง การประสบกับมรสุมระลอกแล้วละลอกเล่า และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างทระนงองอาจคือคำตอบที่สำคัญในทางการเมือง
เป็นคำตอบถึงความมีชีวิต เป็นคำตอบถึงความมีจิตวิญญาณ