ไม่ว่าการเดินทางไปพบกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จะมาจากเหตุผล
เกิดจากปัจจัยภายใน หรือเกิดจากปัจจัยภายนอก
แต่ผลในทางสังคมก็คือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มีท่าทีผ่อนปรน และยอมรับต่อบทบาท ความหมายของคณะกรรมาธิการ
ในที่สุดแล้วก็คือ ยอมรับต่อ “สภา”
อาจเป็นเพราะ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็เป็น ส.ว. อาจเป็นเพราะรู้สึกวางใจเนื่องจากประธานคณะกรรมาธิการก็เป็นทหาร
ทั้งยังเคยมีบทบาทใน “สภาความมั่นคงแห่งชาติ”
ท่าทีและการตัดสินใจของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จึงเท่ากับเป็น “บรรทัดฐาน” และสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการประจำกับรัฐสภาที่สำคัญ
โดยเฉพาะจากข้าราชการ “ทหาร”
ต้องยอมรับว่าในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา สายสัมพันธ์ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับรัฐมนตรีที่มีพื้นฐานมาจากทหารไม่ดีเท่าใดนัก
เห็นได้จากการไม่ยอมมาตอบ “กระทู้ถามสด”
เห็นได้จากบางคนแสดงท่าทีไม่ยอมรับต่อบทบาทและการทำงานของคณะกรรมาธิการบางคณะถึงกับปฏิเสธไม่ยอมไปตามคำเชิญ
กลายเป็นข้อกังขา
กลายเป็นประเด็นอันทำให้เกิดความโน้มเอียงที่จะปกป้องไม่ให้คณะกรรมาธิการแตะไปยังรัฐมนตรีหรือข้าราชการประจำที่เป็น “ทหาร”
ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมาจาก ส.ว.
การเดินทางเข้าสภาของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ
จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
เท่ากับเป็นการเคารพ ยอมรับต่อบทบาทของ “สภา”
ความริเริ่มนี้ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จึงเป็นสัญญาณว่าการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ
พิจาณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563
คงดำเนินไปด้วยความราบรื่น สดใส
โดยเฉพาะเมื่อมีการพิจารณางบประมาณของแต่ละเหล่าทัพ เพราะเมื่อ ผบ.ทบ.แสดงออกเช่นนี้หมายถึงว่าจะมีท่าทีที่อบอุ่นจาก ผบ.ทร. ผบ.ทอ.
เพราะว่าเป้าหมายสำคัญของ “กรรมาธิการ” คือ “งบกลาโหม”
มีความจำเป็นที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จะต้องไปศึกษาแบบอย่างจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ
เพื่อทำให้บรรยากาศแห่งความเป็นมิตรบังเกิด
อย่างน้อยหากจะมีการตัดหรือโยกงบประมาณบางส่วนของกระทรวงกลาโหมเพื่อไปเป็นงบทางด้านรัฐสวัสดิการเพื่อประชาชนก็จะเกิดขึ้นบนความสุกงอมเต็มใจ
มิใช่เพราะถูกบีบกดจน “ทหาร” ต้องคายออกมา
บทบาทของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ เมื่อประสานกับบทบาทของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
จึงถือได้ว่าเป็นการริเริ่มในลักษณะสร้างสรรค์
เป็นการเบิกมิติ เบิกสถานการณ์ “ใหม่”
เป็นการง้างท่าทีและกระบวนการท่าของ “ทหาร” จากที่เคยแข็งกร้าว ไม่ผ่อนปรน ให้เป็นการยอมรับและให้ความเคารพต่อบทบาทของ “กรรมาธิการ”
นิมิตหมายเช่นนี้ย่อมเป็นคุณแก่ประชาธิปไตย