รายงาน : มรสุม โลหิต ประชิด อนาคตใหม่ กับ ‘ธนาธร’

ไม่เพียงเพราะการอยู่ในตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เพียงเพราะการที่อดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคจำนวนกว่า 120 คนยื่นใบลาออก

ทำไมพรรคอนาคตใหม่ตกอยู่ในกระแส “ข่าว”

หากยังเป็นเพราะศาลรัฐธรรมนูญกำหนดจะอ่านคำวินิจฉัยในกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือครองหุ้น
(วีลัค-มีเดีย)

หากยังเป็นเพราะ ปอท.มีความเห็นเสนอ อสส.ให้ฟ้อง นายปิยบุตร แสงกนกกุล กรณี “หมิ่นศาล”

Advertisement

หากยังเป็นเพราะได้มีข้อสงสัยที่คนในตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” บริจาคเงินให้พรรคอนาคตใหม่จำนวนมาก

หากยังเป็นเพราะการบริจาคเงิน 1 ล้านบาทของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช มีเงื่อนงำ

หากยังเป็นเพราะพรรคอนาคตใหม่เพิ่งแพ้การเลือกตั้ง

Advertisement

หากยังเป็นเพราะมี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่จำนวนหนึ่งยกมือโหวตในลักษณะ “สวน” กับมติพรรค ไม่ว่าในกรณี “พระราชกำหนด” ไม่ว่าในกรณี “ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ”

พรรคอนาคตใหม่จึงกลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”

มีความเชื่อตั้งแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาแล้วว่า พรรคอนาคตใหม่มีโอกาสจะกลายเป็น อนาคต “ไหม้” และกลายเป็น อนาคต “หมด” อย่างค่อนข้างแน่นอน

เห็นได้จากคดีความที่สุมรุมเข้าไป

บางคดีเก่าตั้งแต่ปี 2558 บางคดีเป็นการรื้อฟื้นในเรื่องที่เห็นว่าเป็นสื่อ ก็มิได้เป็นสื่อการเมือง และก็มิได้มีการผลิตออกมาแล้วในทางเป็นจริง

คำบรรยาย “แผ่นดินของเรา” ก็พุ่งปลายหอกเข้าใส่ “อนาคตใหม่”

ไม่ว่าจะเป็นการเอ่ยถึง “ฮ่องเต้ ซินโดรม” ไม่ว่าจะเป็นการเอ่ยถึง “นักเรียนเอก” บางคนที่เป็นอาจารย์ก่อนผันมาก่อตั้งพรรคการเมือง

เป็น “ธนาธร” เป็น “ปิยบุตร”

ความเชื่อนี้ยิ่งจำหลักหนักแน่นในเมื่อบรรทัดฐานต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หนักถึงขั้นยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ทั้งๆ ที่มี ส.ส.จำนวนมากล้วนอยู่ในข้อหา “ยึดครองหุ้นสื่อ”

เป็นความเชื่อที่ว่า “อนาคตใหม่” ต้องถูก “จัดการ”

อย่าได้แปลกใจหากว่าพรรคพลังประชารัฐจะยอมไม่ได้เป็นอันขาดเมื่อประสบกับการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมาธิการวิสามัญ

มองไปไกลถึงระดับอาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเป็น “โมฆะ”

จึงเปิดยุทธการตั้งแต่หัวหน้าพรรคยัน ส.ส.ของพรรคที่มีตำแหน่งสำคัญในกรรมาธิการ และในสภาผู้แทนราษฎร

เป้าหมายเพื่อยุติบทบาท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ขณะเดียวกัน เมื่อบรรดาอดีตผู้สมัคร ส.ส. และบรรดาสมาชิกพรรคประกาศความต้องการจะลาออกจากพรรคก็กลายเป็นข่าวใหญ่

ใหญ่กว่าข่าว GSP ใหญ่กว่าการลด GDP

สะท้อนให้เห็นว่า ความรู้สึกของ “สื่อ” ไม่ว่าสื่อใหม่ ไม่ว่าสื่อเก่า ล้วนประเมินว่าชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่มีบทบาทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชะตากรรมของประเทศ

เป็นความเชื่อว่าในที่สุดก็จะกลายเป็น อนาคต “ไหม้” อนาคต “หมด”

ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ พรรคอนาคตใหม่ยังคงเดินหน้าไปตามทิศทางของตน ไม่เพียงแต่ที่นครศรีธรรมราชจะมีการจัดงานครบ 1 ปี

หากที่สมุทรปราการก็มีการระดมทุน

ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์อนาคตใหม่ ธนบุรี ก็มีการจัดกิจกรรมอย่างที่เรียกว่า “แฮ็คคาฟิวเจอร์” เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเข้าประชุม “กรรมาธิการ” เป็นปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image