นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2563 ที่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร พบว่ามี ส.ส.ลงมติแทนกันในวันที่ 10 ม.ค. เวลาประมาณ 20.50 น. โดยระบุชื่อ ส.ส.พรรครัฐบาลคนหนึ่ง ซึ่งตามวันเวลาที่มีการลงมติ ส.ส.คนดังกล่าวได้เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ แต่กลับมีชื่อร่วมลงมติในร่าง พ.ร.บ.งบฯ ตั้งแต่มาตรา 39 และการประชุมวันที่ 10 ม.ค.ได้ปิดประชุมในเวลา 01.07 น.
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า เช้าวันที่ 11 ม.ค. มีการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต่อจากวันที่ 10 ม.ค. พบว่าในเวลา 11.10 น. มีการลงมติมาตรา 40 ก็ยังมีชื่อ ส.ส.คนดังกล่าวร่วมลงมติอีก เช่นเดียวกับในเวลา 17.34-17.38 น. มีชื่อลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งๆ ที่ในวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาตินั้นมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ส.ส.คนดังกล่าวเป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ และได้ไปเปิดงานวันเด็กแห่งชาติที่อำเภอควนขนุน จ.พัทลุง อีกด้วย และเดินทางกลับ กทม.จากนครศรีธรรมราช เวลา 11.55 น.ของวันที่ 13 ม.ค.
ก่อนหน้านี้ เคยมีกรณีของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงมติโดยฝ่าฝืนมติพรรคและอ้างว่าเสียบบัตรทิ้งไว้ แต่กรณีที่เกิดขึ้น นายนิพิฏฐ์ระบุว่า หากเสียบบัตรทิ้งไว้จะต้องไม่มีการลงมติของ ส.ส.คนดังกล่าวในวันรุ่งขึ้น เพราะเมื่อสภาปิดประชุม เจ้าหน้าที่จะดึงบัตรออกในวันนั้น หรือตอนเช้าก่อนประชุมเพื่อเคลียร์ระบบ มิฉะนั้นจะเซตระบบไม่ได้ ขณะที่ ส.ส.คนดังกล่าวชี้แจงว่า ออกจากรัฐสภาช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค.จริง และเสียบบัตรทิ้งไว้ เพราะต้องรีบไปประสานงานรับศพญาติที่ประสบอุบัติเหตุ 5 ศพ ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนฯ และมีผลกระทบไม่เฉพาะต่อพรรคต้นสังกัด แต่ยังรวมถึงสภาในภาพรวมอีกด้วย การลงมติในสภาถือเป็นการทำหน้าที่แทนประชาชน ส.ส.จะต้องกระทำโดยคำนึงประโยชน์ของประชาชนในกรอบของวินัยและจริยธรรม ข้ออ้างเสียบบัตรทิ้งไว้ กำลังกลายเป็นวาทกรรมที่สะท้อนด้านลบของ ส.ส. ซึ่งสภาผู้แทนฯ ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องเร่งหารือเพื่อยุติปัญหานี้ให้ได้
