เมื่องานกระจาย “หน้ากากอนามัย” ไปตามโรงพยาบาลเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข เมื่องานกระจาย “หน้ากากอนามัย” ไปตามร้านขายยาเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย
แล้วกระทรวงพาณิชย์เหลืออะไร
แม้ประกาศิตจากทำเนียบรัฐบาลจะช่วย “เคลียร์” ความสงสัยในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นให้หมดไป
อันมีส่วนทำให้กระทรวงพาณิชย์ยัง “ยิ้ม” ได้(บ้าง)
แต่รอยยิ้มของกระทรวงพาณิชย์จะดำรงอยู่อย่างชื่นบานได้ละหรือ ในเมื่อแต่ละจังหวะก้าวของคำประกาศิตซึ่งมาจากทำเนียบรัฐบาลนั้นล้วนมีความสำคัญ
ไม่ว่าจะมาจากนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะมาจากรองนายกรัฐมนตรี
เท่ากับเป็นการตั้งคำถามโดยตรงต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ชื่อ นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์
นี่ย่อมกระเทือน กระทบ พรรคประชาธิปัตย์
ต้องยอมรับว่าการแสดงบทบาทไม่ว่าจะจาก 1 นายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะจาก 1 รองนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์และยึดโยง
ยึดโยงอยู่กับ “หน้ากากอนามัย”
เพราะว่าคำสั่งของนายกรัฐมนตรี คือ คำสั่งโอนย้ายอธิบดีกรมการค้าภายในออกจากกระทรวงพาณิชย์
โดยมิได้ปรึกษากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เพราะว่าคำสั่งของรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม ส่งผลให้อำนาจในการบริหารจัดการต่อ “หน้ากากอนามัย” ขาดวิ่นไม่สมบูรณ์
ต้องแบ่งให้กระทรวงสาธารณสุข ต้องแบ่งให้กระทรวงมหาดไทย
นี่มิใช่เพราะว่านายกรัฐมนตรีต้องการกลั่นแกล้ง นี่มิใช่เพราะว่ารองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม ต้องการบีบคั้น
หากแต่มาจาก “ฐานข้อมูล” อันแตกต่างกันกับของกระทรวงพาณิชย์
ลักษณะ “กัมมันตะ” อันสำแดงพลานุภาพผ่านนายกรัฐมนตรี ผ่านรองนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายวิษณุ เครืองาม มีผลโดยตรง
ไม่เพียงแต่ต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หากแต่ยังมีผลโดยตรงต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
และที่สำคัญคือ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
แม้ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่มีชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
แต่ปฏิบัติการครั้งใหม่มาจาก “นายกรัฐมนตรี”
และปฏิบัติการขยายผลโดยรองนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นายวิษณุ เครืองาม ก็เป็นไปตามความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่คือความไม่ไว้วางใจต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
คนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่า นายชวน หลีกภัย ไม่ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ชอบใช้คำใหญ่ๆ คำโตๆ เสมอในทางการเมือง
ประชาธิปไตย “สุจริต” ประชาธิปไตย “ทุจริต”
ญัตติไม่ไว้วางใจอันมาจากทำเนียบรัฐบาลครั้งล่าสุดนี้เสนอทางเลือกให้พรรคประชาธิปัตย์และ นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์ โดยตรง
ว่ายังเป็นฝ่ายประชาธิปไตย“สุจริต”อยู่หรือไม่