กระแส อารมณ์ ทางสังคม ต่อ ประยุทธ์ พลังประชารัฐ
เพียงคำปรารภว่า จะทำหนังสือถึง 20 มหาเศรษฐีเพื่อขอให้ให้ความร่วมมือในการ
แก้ปัญหาไวรัส ปฏิกิริยาในทางสังคมก็ปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใด
กลายเป็น “คำถาม” สำคัญต่อรัฐบาล และโดยเฉพาะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เป็นคำถามทั้งในเชิงประชดประเทียด และความเชื่อมั่น
ทั้งๆที่ประเทศอยู่ภายใต้การประกาศและบังคับใช้พรบ.การบริหารราชการในสถานการณ์”ฉุกเฉิน”อำนาจการเมือง อำนาจในด้านความมั่นคงอยู่ในมือ
เป็นความแคลงใจเป็นความไม่ไว้วางใจในวิธีวิทยาในการบริหาร ในการจัดการกับปัญหาของรัฐบาล
เป็นคำถามอันมากับจิตวิญญาณแห่ง ”ประชาธิปไตย”
มีคำตอบมากมาย อันสามารถยืนยันความไม่ไว้วางใจว่ารัฐบาลจะสามารถนำพาประเทศชาติและประชาชน
ตีฝ่ามรสุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้หรือไม่
เป็นคำตอบจากผลงานการบริหารประเทศมา 5 ปีภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เด่นชัดจากผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
หากไม่มี “อภินิหารในทางกฎหมาย” ไม่ว่าจะผ่านรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ว่าโดยการเล่นกลผ่าน”องค์กรอิสระ” คงไม่ได้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
และคำตอบล่าสุดอันมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งคือ ความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเมื่อประสบเข้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสในห้วง 3 เดือนหลัง
ทั้งหมดนี้คือรากฐานแห่งความไม่เชื่อมั่น รากฐานแห่งการปรากฏ # อันดุเดือดเข้มข้นผ่านโซเชียลมีเดีย
ปมเงื่อนอยู่ที่ว่า รัฐบาลและโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรับมือกับอารมณ์ทางสังคมซึ่งแสดงออกอย่างเด่นชัดนี้อย่างไรจึงจะขับเคลื่อนประเทศต่อไปได้โดยราบรื่น เป็นคุณ
โดยพื้นฐานก็คือ ต้องจัดสมดุลระหว่าง “สุขภาพ” กับ”เสรีภาพ” อย่างเหมาะสม
ไปในทิศทางแห่ง”ประชาธิปไตย”อย่างสร้างสรรค์
ขณะเดียวกันต้องให้โครงสร้างแห่งอำนาจดำเนินไปอย่างเป็นคุณ ไม่ว่าอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ให้ประสานถ่วงดุลกันอย่างเป็นจริง
หากไม่เป็นไปตามนี้ความเชื่อมั่นจะยิ่งหมดและหดหายยิ่งขึ้น