กรณีกลุ่มครู 5 คน ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.มุกดาหาร ล่อลวงบังคับข่มขืน น.ร.หญิงในระดับ ม.2 และ ม.4 จำนวน 2 ราย จากปี 2562 ต่อเนื่องถึงปี 2563 และต่อมายังมีศิษย์เก่า 2 คน มาร่วมข่มขืนด้วย รวมกลุ่มบุคคลที่ข่มขืนมีจำนวน 7 คน ด้วยกัน ต่อมาญาติของเด็กหญิงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร ซึ่งทาง พ.ต.อ.นำชัย ศรีเวียง ผกก.สภ.ผึ่งแดด กล่าวว่าพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้เรียบร้อยแล้ว และได้ทำสำนวนคดีอย่างละเอียดรอบคอบ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการสอบสวน เนื่องจากหนึ่งในผู้เสียหายขณะถูกข่มขืนกระทำชำเราเป็นเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และอีกหนึ่งคนยังเป็นเยาวชน ซึ่งทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ผกก.สภ.ผึ่งแดด เผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน มาสอบสวน พร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี ในลักษณะร่วมกันโทรมเด็กหญิง ซึ่งระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ และยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไปทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อเสนอให้ทางสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารดำเนินคดีต่อไป ขณะที่ นางมยุรี อึ้งตระกูล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.มุกดาหาร กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูสภาพครอบครัว ว่าต้องการให้เราช่วยเหลือเรื่องใดบ้างโดยทันที ในเบื้องต้นได้ให้คำปรึกษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กตามกระบวนการของบ้านพักเด็กและครอบครัว หากทางเด็กประสงค์จะเข้าพักที่บ้านพักเด็กและครอบครัวก็ยินดีให้เข้าไปพัก พร้อมทั้งจะได้จัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่ต่อไป
น่าสังเกตว่ากรณีที่เกิดขึ้น กว่าผู้ปกครองเด็กหญิงจะทราบเรื่อง ใช้เวลายาวนานมาก ขณะเดียวกัน น่าสงสัยว่าผู้บริหารโรงเรียนได้สอดส่องพฤติกรรมของครูอาจารย์ และดูแลสวัสดิภาพของนักเรียนมากน้อยอย่างไร เพราะการข่มขืนเกิดขึ้นที่บ้านพักครู และห้องเรียนในโรงเรียน โดยมีครูถึง 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ร่วมกระทำการ กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานบังคับบัญชา น่าจะตรวจสอบฝ่ายบริหารโรงเรียนไปพร้อมกันด้วย ว่าเกิดความย่อหย่อนอย่างไร หากพบว่า ทราบเรื่องราวแต่ไม่ได้จัดการ ก็ควรต้องพิจารณาดำเนินการไปพร้อมกัน
