เหตุปัจจัยอะไร ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความมั่นใจว่าจำนวนผู้เข้าร่วมการเคลื่อนไหว ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยการเชิญชวนของ “คณะราษฎร 2563” ไม่น่าจะเกินหมื่น
คำตอบมาจากรายงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีองค์ประกอบหลายประการทำให้ สมช.ต้องเชื่อเช่นนั้น
1 เป็นความมั่นใจจากรายงานของชุมชนด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพราะที่อ้างอิงว่าจะมีมวลชนจาก 50 จังหวัดเข้าร่วมนั้น น่าจะดำเนินไปอย่างไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อน
1 เป็นความมั่นใจจากผลสะเทือนการเคลื่อนไหวในทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รับไม่ได้จากข้อเสนอซึ่งสรุปกันว่าสะท้อนลักษณะ ”เลยธง” ในทางการเมือง
เมื่อในการเคลื่อนไหว 14 ตุลาคม ยังยืนยัน ”ธง” อันชูมาตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม จึงน่าจะมีมวลชนถอยออกจำนวนมาก
น้ำหนักแห่งการถอยออกวางอยู่กับ ”คนเสื้อแดง” เป็นด้านหลัก
ต้องยอมรับว่า ความมั่นใจไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะมาจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นความมั่นใจที่มิได้ให้ราคากับปรากฏการณ์ ”เยาวชนปลดแอก”
แม้ว่าปรากฏการณ์จากเดือนกรกฎาคมมายังเดือนกันยายนจะมีปริมาณมวลชนเข้าร่วมแตะไปยัง ”หลักแสน”
แต่ก็ดำเนินไปในแบบมุ้งมิ้งและวูบวาบของม็อบฟันน้ำนม
นั่นก็คือ ไม่สามารถที่จะยกระดับการชุมนุมในลักษณะยืดเยื้อเหมือนกับการชุมนุมของพันธมิตร เหมือนกับการชุมนุมของ กปปส. และเหมือนกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
ดังนั้น สถานการณ์ ”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร” อาจมีคนเสื้อแดงไปเติมจำนวนให้ แต่เมื่อมีสัญญาณให้คนเสื้อแดงถอยตามจังหวะก้าวทางการเมือง
ที่เคยเป็น ”เรือนแสน” ก็มีโอกาสถอยกลับเป็นต่ำกว่า ”หมื่น” ได้
ยิ่งแกนนำเสื้อแดงระดับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประสานกับ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ออกโรง ยิ่งทำให้มีน้ำหนักเป็นอย่างสูง
ณ วันนี้ ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะถูกต้องเป็นจริงอย่างไร
ขณะที่ ”คณะราษฎร 2563” ยังดำรงจุดมุ่งหมายเดิมของตน
คำตอบอย่างแท้จริงจึงอยู่ที่จำนวนคน ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 14 ตุลาคมเป็นสำคัญ