ปมดราม่า‘นั่งไขว่ห้าง’ เรื่องเล็กๆ ที่ถูกขยายใหญ่
หมายเหตุ – เป็นความเห็นกรณีนักข่าวหญิงสำนักข่าวหนึ่ง เข้าทำข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาสำนักโฆษก ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือให้งดเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว นอกจากนี้ สมาคมนักข่าวยังตักเตือนนักข่าวคนดังกล่าว กรณีนั่งไขว่ห้างระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงข่าว
ธีระพล อันมัย
อาจารย์สาขานิเทศศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ม.อุบลราชธานี
องค์กรสื่อไทยสมประโยชน์กับอำนาจนิยมที่กดทับสังคมไทยมานานมากนับตั้งแต่มีรัฐประหาร สังเกตจากเวลาคณะรัฐประหารแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สมาคมสื่อของไทยก็จะมีตัวแทนเข้าไปอยู่ในนั้นเสมอ คือแทนที่สมาคมพวกนั้นจะเป็นหัวหอกออกมาต่อต้านการรัฐประหาร ต่อต้านการลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานคือ เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและสื่อมวลชน แต่องค์กรสื่อไทยกลับทำตัวเป็นพวกเดียวกับคณะรัฐประหาร จึงไม่ค่อยเห็นแถลงการณ์ขององค์กรสื่อไทยในหลายกรณี เพราะมองปรากฏการณ์หลายๆ อย่างด้วยสายตาของผู้กดขี่หรือผู้สนับสนุนการกดขี่ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรก็ไม่ผิดหรือดูน่ารักไปหมด แต่ถ้าเป็นยิ่งลักษณ์ ทักษิณ หรือรัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนแล้ว องค์กรเหล่านี้จะมีแถลงการณ์ไวมากและเรียกร้องเยอะมาก
ถามว่ามีใครสามารถมีสิทธิห้ามสื่อบางคน บางสำนัก ไม่ให้ทำข่าวได้ด้วยหรือ มีคำพิพากษาศาลออกมาหรือยัง กรณีแบบนี้ต่างหากที่องค์กรสื่อจะต้องออกแถลงการณ์เรียกร้องเพื่อสื่อที่ถูกปิดกั้นเสรีภาพ ไม่ใช่มาอ้างจริยธรรมเพื่อประณามสื่อที่นั่งไขว่ห้าง แต่เงียบเฉยต่อการปิดกั้นสิทธิการทำหน้าที่ของสื่อ
ส่วนตัวไม่มีปัญหากับการนั่ง การยืน การเดินของคนเป็นนักข่าว ถ้าการนั่ง การยืน หรือการเดินนั้น ไม่ได้กดทับหรือเบียดขับคนอื่นให้ไม่มีที่นั่งหรือที่ยืน หรือไม่ได้ทำให้คนอื่นเห็นภาพอุจาดตา แต่กลับสนใจการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวมากกว่า ว่าได้ตั้งคำถามอันเป็นประเด็นสำคัญและแหลมคมพอหรือไม่ ได้ทำหน้าที่เป็นปากเสียง เป็นหมาเฝ้าบ้านจริงๆ หรือไม่
ผู้ที่มีปัญหากับการนั่งไขว่ห้างของนักข่าวหญิง คือพวกที่เติบโตมากับระบบคิดแบบชายเป็นใหญ่ เป็นพวกอำนาจนิยม พวกนี้สนใจตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมจรดปลายเท้าของผู้หญิง สะท้อนปัญหาสังคมนี้ที่กดทับผู้หญิงไว้ทุกอิริยาบถอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน คุณกดทับผู้หญิงไว้เพื่อให้เธอเป็นกุลสตรี เป็นศรีภรรยา เป็นแม่ศรีบ้านแม่ศรีเรือน พอผู้หญิงยืน เดิน นั่ง นอน ผิดจากกรอบที่ชายกำหนดหรือตีกรอบไว้ พวกนี้ก็จะทนไม่ได้ เพราะมันบั่นทอนความคิด ความเชื่อของผู้ชาย
รศ.พรทิพย์ สัมปัตตะวนิช
อดีตคณบดีคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ไม่ได้เห็นว่าท่าไขว่ห้างที่ผู้สื่อข่าวนั่งเป็นอย่างไร เพราะท่านั่งไขว่ห้าง ในทางจิตวิทยามีทั้งแบบที่นั่งแล้วดูสุภาพ เป็นสากล กับการไขว่ห้างที่บอกท่าทางแสดงตน แสดงอำนาจ หรือไขว่ห้างด้วยความมั่นใจ ซึ่งมีลักษณะต่างกัน การอยู่ในบริบทสมัยใหม่อันหล่อหลอมด้วยวิธีการคิดแบบเด็กสมัยใหม่ อาจมีความแตกต่างออกไปจากรุ่นก่อน เป็นเรื่องของเจเนอเรชั่นที่มองว่าการนั่งอย่างสุภาพควรเป็นอย่างไร กับการนั่งด้วยความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างไร ประเด็นนี้น่าจะเกิดจากการมองสัญญะของการนั่งคนละรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการนั่งฟังแถลงข่าว ไม่ใช่การนั่งให้สัมภาษณ์ ส่วนตัวไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบางเรื่องที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้ามองแล้วเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสัญญะอันสำคัญ ก็คิดกันคนละรูปแบบ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นในสถานการณ์ของการแถลงข่าว ซึ่งไม่ควรเอาเรื่องเล็กน้อยนี้มาเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์กรสื่อ เพราะถ้าคิดแค่นี้จะยังมีเรื่องอื่นๆ อีก เช่น พูดจาไม่สุภาพ ไม่มีคะ ขา ถ้าจับประเด็นนี้ก็ต้องเอาประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับมารยาทมาพูดกันทั้งหมดหรือเปล่า ถ้าเห็นเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ก็จะกลายเป็นประเด็น ทุกอย่างถูกโยงสู่ประเด็นเรื่องสัมพันธภาพระหว่างผู้นำกับสื่อ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
กรณีนายกรัฐมนตรี โยนเปลือกกล้วย ฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าว สะท้อนสังคมอำนาจนิยม ที่ผู้ใหญ่จะทำกับเด็กอย่างไรก็ได้ ไม่ผิด แต่เด็กทำแบบเดียวกันไม่ได้ ในเรื่องเดียวกัน คนมีอำนาจสามารถทำได้ เป็นแนวคิดของสังคมไทยอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะหลุดจากกรอบแนวคิดนี้ได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
นัทรียา ทวีวงศ์
ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ขอชี้แจงข้อมูลเพื่อให้สื่อมวลชนทั้งในทำเนียบรัฐบาล และที่ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลประจำ รวมถึงสาธารณชนที่สนใจเกี่ยวกับการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนภายในทำเนียบรัฐบาล ตลอดทุกสมัยที่ผ่านมาผู้บริหารฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำ เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกในฐานะผู้รับผิดชอบการดูแล และอำนวยความสะดวกสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าว และช่างภาพเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความราบรื่น และไม่มีปัญหานั้น ได้ทำงานร่วมกันด้วยดีมาโดยตลอด แม้จะมีจำนวนสื่อมวลชนสนใจเข้ามาทำข่าว ติดตามสถานการณ์ จำนวนมากนับหลายร้อยคน ซึ่งทำเนียบรัฐบาลก็เปิดกว้าง และอำนวยความสะดวกอย่างทั่วถึงและดีที่สุด ตามนโยบาย โดยทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตของตนเองด้วยความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้เกียรติ และเคารพสิทธิซึ่งกันและกันเสมอมา
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกนั้น จะเห็นได้ว่าสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลนั้นมีความใกล้ชิดกับแหล่งข่าวระดับสูงและมีสิทธิเสรีภาพอย่างมากในการปฏิบัติงาน ซึ่งแตกต่างจากในหลายประเทศ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้จัดห้องปฏิบัติการสำหรับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน เครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมทั้งระบบไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้สื่อมวลชนทำหน้าที่รายงานข่าวได้สะดวก มีการจัดระเบียบและกำหนดบริเวณให้สื่อมวลชน สามารถรายงานข่าวหรือสัมภาษณ์ผู้บริหารได้สะดวกและทั่วถึง
นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตระหนักถึงความต้องการและความจำเป็นในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยได้ยืดหยุ่นบางระเบียบ เพื่อให้สื่อมวลชนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวก ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด เช่น อนุโลมให้นั่งรอ หรือดักรอสัมภาษณ์ผู้บริหาร บริเวณหน้าตึกบัญชาการ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประสานให้ความสะดวก เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลข่าวสารและรายงานให้ประชาชนทราบอย่างถูกต้องชัดเจน และรวดเร็ว
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้จัดการตรวจคัดกรองด้วยวิธีการที่ดีที่สุด (SWAB Test) ให้แก่สื่อมวลชน และกำหนดมาตรการป้องกันสื่อมวลชนจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้แก่ การรักษาระยะห่าง การตรวจวัดอุณหภูมิประจำวัน และการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยและมั่นใจในการทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตระหนักในภาระหน้าที่และความสำคัญของสื่อมวลชน และยึดหลักปฏิบัติในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพทุกรายอย่างเต็มที่และเสมอภาคกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม
สำนักโฆษกขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ทำงานร่วมกันมานาน จนเหมือนเพื่อนหรือญาติ ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวในฐานะเพื่อน และเพื่อนร่วมงาน สื่อเองมีน้ำใจกับสำนักโฆษกเสมอช่วยเหลือ มอบน้ำใจให้ ซึ่งสำนักโฆษกขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย