เสียงครวญ‘เอกชน’ ล็อกดาวน์‘จังหวัดสีแดง’

ล็อกดาวน์‘จังหวัดสีแดง’

เสียงครวญ‘เอกชน’ ล็อกดาวน์‘จังหวัดสีแดง’

หมายเหตุความเห็นของภาคเอกชนต่อข้อเสนอของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำมาตรการล็อกดาวน์ จังหวัดพื้นที่สีแดง อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี และสระแก้ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี
นายกสมาคมโรงแรมไทย

Advertisement

หวังว่าสถานการณ์การกระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ครั้งนี้คงไม่ซ้ำรอยเดิมเหมือนครั้งที่ผ่านมาช่วงต้นปี 2564 เนื่องจากปัญหาช่วงนั้นธุรกิจต้องหยุดมีผลกระทบอย่างมากในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ขณะที่การระบาดช่วงนี้ยังโชคดีที่มีนักท่องเที่ยวอยู่บ้างในเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมมีรายได้บ้างไม่มาก แม้ว่าก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจะมีการแจ้งยกเลิกจองห้องพักที่ภูเก็ต 20% พัทยา 20% แต่สิ่งที่น่ากังวลหลังจากสิ้นสุดสงกรานต์แล้วจะเป็นอย่างไร ก็หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดของโรคได้เร็ว โดยผู้ประกอบการโรงแรมพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อคุมการระบาด ทั้งการสั่งล็อกดาวน์ หรือจะมีวิธีการอื่น ก็ขอให้กำหนดเป็นมาตรการในระยะสั้น โดยไม่เหมารวมแบบหว่านแห ศบค.อาจจะพิจารณาล็อกดาวน์บางพื้นที่ เพื่อเปิดช่องเปิดโอกาสให้มีการทำธุรกิจได้บ้าง ส่วนกรณีที่จะให้ธุรกิจโรงแรมปิดไปนาน 3-4 เดือน เหมือนปีก่อน ยอมรับว่าคงไม่ไหวแล้วเพราะขณะนี้ธุรกิจโรงแรมถือว่าถึงจุดตกต่ำที่สุดแล้ว

วันนี้ไม่มีโรงแรมที่ไหนจ่ายเงินเดือนให้พนักงานเต็มจำนวน แต่ที่ผ่านมามีการพุดคุยหารือ เพื่อช่วยกันฝ่าฟันวิกฤต เพราะถ้าพนักงานต้องลาออกไปแล้วไม่มีงานทำก็น่าเป็นห่วง และหลังจากนี้ไปจะต้องมีโรงแรมต้องปิดเพิ่มอีกหรือไม่ คาดการณ์ล่วงหน้าได้ยากมาก เพราะการแก้ปัญหาโควิดจะต้องมีการล็อกดาวน์เพื่อคุมการระบาด แต่เชื่อว่าหลังจากปิดไป 14 วัน ทุกอย่างน่าจะคลี่คลายเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้ และภาครัฐจะต้องออกมาแสดงความมั่นใจ สร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนว่ามีการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาได้จริง ที่สำคัญไม่ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายแก้ปัญหาอย่างไร ขอให้มองว่าโรงแรมทั่วประเทศส่วนใหญ่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการติดเชื้อครบวงจร สามารถให้บริการได้อย่างปลอดภัย

ส่วนตัวยอมรับว่าไม่คาดคิดมาก่อนว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะถูกซ้ำเติมจากการระบาดระลอกใหม่ เพราะเดือนมีนาคมธุรกิจท่องเที่ยวมีผลประกอบการที่ดีขึ้น และหวังว่าเดือนเมษายน การท่องเที่ยวน่าจะดีกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มาเจอแบบนี้ก็เหมือนการทำธุรกิจล้มแล้วลุกใหม่ในระยะเวลาไม่นาน แต่ถูกทำซ้ำหลายๆ ครั้ง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากนี้ภาครัฐต้องเร่งฉีดวัคซีน ต่อสัดส่วนประชากรให้มากที่สุดและเร็วที่สุด

Advertisement

ขณะที่การเปิดเมืองให้เที่ยวภูเก็ตในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้น่าจะไม่มีผลกระทบ เพราะคงต้องแยกระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศและการรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะนี้คนภูเก็ตได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามา ก็ต้องฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น โอกาสที่จะมีการระบาดอีกถือว่ามีน้อยมาก

สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศหลังจากสงกรานต์นี้ หากโควิดยังไม่จบ นักท่องเที่ยวจะน้อยลงอีก แต่รัฐบาลควรรีบทำให้จบ เพราะเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันในเฟส 3 จะมีการจองสิทธิ ท่องเที่ยววันหยุดยาวก่อนเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม การท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การลดปัจจัยเสี่ยง หากรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนคุมการระบาดได้ดี เร่งปลดล็อกให้ข้าราชการเลิกทำงานที่บ้านได้เร็ว แล้วจัดให้มีการประชุมสัมมนาได้ก็จะเป็นผลดีกับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง และหลังสิ้นสุดการระบาดรอบนี้ไปแล้ว เชื่อว่าทุกภาคส่วนคงไม่อยากให้มีการระบาดอีกในระลอกต่อไป ส่วนภาครัฐบางคงต้องทบทวนมาตรการที่ผ่านมาเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำ

พัลลภ แซ่จิว
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

วิธีคิดของรัฐกับภาคธุรกิจต่างกัน การล็อกดาวน์ทำให้ธุรกิจไปไม่ได้ แล้วถามว่าเอาอยู่หรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้ การล็อกดาวน์เจ็บปวดแน่นอน ไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำก็ตาม ส่วนตัวผมมองว่ามีวิธีหลายอย่าง เช่น เมืองใหญ่หลายเมืองไม่ล็อกดาวน์เลยนะ เปิดปกติเลย สิ่งที่อยากให้รัฐทำมากที่สุด คือ เมื่อวัคซีนมาขอให้จัดสรรลงในพื้นที่เมืองที่มีปัญหาก่อน ขอให้โฟกัสพื้นที่เมืองใหญ่ที่มีความอ่อนไหวก่อนเป็นอันดับแรก อย่างเช่น จ.เชียงใหม่ มีผลกระทบสูงในเขตเมืองและรอบๆ ปริมณฑล ในขณะที่อำเภอรอบนอกมีความเสี่ยงต่ำมาก หากเราโฟกัสถูกจุดเราก็จะเอาอยู่ แต่การล็อกดาวน์เป็นมาตรการที่ตีคลุมหมด ถามว่าดีหรือไม่ในแง่สาธารณสุขใช่เพราะจัดการง่าย ไม่ให้ประชาชนเคลื่อนไหวไปไหน และแต่ในโลกแห่งความเป็นจริง คือ ตอนนี้ปิดเทอม แล้วเดือนพฤษภาคมจะเปิดเทอมแล้ว เขาจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเทอมลูก รัฐจะให้ฟรีไม่เก็บค่าเทอมหรือไม่ เพราะประชาชนทุกคนไม่ได้ไปสถานบันเทิง

มันมีคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ ส่วนตัวมองในฐานะนักธุรกิจ สาธารณสุขเขาก็มีเหตุผล ก็ต้องวัดน้ำหนักเอามาชั่ง แต่สำหรับผมไม่เห็นด้วยที่จะล็อกดาวน์ น่าจะมีวิธีอื่น ไม่ควรสั่งห้ามขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารด้วยซ้ำ เพราะไม่ตรงจุดต้องไปจัดการสถานบันเทิง ไปหยุดตรงนั้นมากกว่า หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ การล็อกดาวน์ก็ต้องทำในระยะสั้นที่สุดแค่ 7 วัน ก็เจ็บปวดแล้ว ตอนนี้ผู้โดยสารผ่านสนามบินก็ปรับลดลงไปอีกเหลือ 6,000 คนต่อวัน คือ เข้า-ออก เฉลี่ย 13,000-14,000 คนต่อวัน เที่ยวบินเหลือ 10 เที่ยวต่อวัน

ถามว่าเหตุเกิดการแพร่ระบาดที่กรุงเทพฯใช่หรือไม่ หลายคนพูดว่าเจ็บแต่จบ เปิดมาก็จบใหม่ อยากให้เราเรียนรู้สู้กับมัน แล้วหายุทธวิธีมาคุยกันไม่ดีกว่าหรือ

นิพนธ์ สุวรรณนาวา
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้า-สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ต้องยอมรับว่าวันนี้เจ้าของธุรกิจโรมแรมอยู่ในภาวะสิ้นหวัง เพราะมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาล ตั้งแต่การระบาดรอบแรก รอบสอง มีการตั้งกฎเกณฑ์ สร้างเงื่อนไขที่ภาคเอกชนเข้าถึงได้ยากมาก ไม่มีมีใครกู้ผ่านจากนโยบายเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลน ทำให้งบประมาณที่ตั้งไว้ยังใช้จ่ายไม่หมด เพราะรัฐใช้หลักการเดิมเหมือนช่วงภาวะเศรษฐกิจปกติ ทั้งควรเร่งพิจารณาลดเงื่อนไขให้ตรงกับกับการแก้ไขปัญหาของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเร็ว ในสถานการณ์วิกฤตเฉพาะหน้า

สำหรับแนวทางการล็อกดาวน์จากผลของการระบาดระลอกล่าสุดในจังหวัดที่ค่อนข้างรุนแรง ขณะนี้ในพื้นที่ไม่มีใครให้ความสนใจ เพราะไม่ทราบว่าจะรับมืออย่างไร ไม่ต้องเปิดตำราที่ไหนอีก ใครที่ยังยืนไหวก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เชื่อว่าหากมีการล็อกดาวน์แบบเหมารวมจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมใน อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด อ.เมืองประจวบฯ เป็นอย่างมาก มีบางรายอาจจะต้องปิดกิจการ เพราะฉะนั้นภาครัฐควรเลือกล็อกดาวน์ในบางจุด เช่น อ.หัวหิน โดยใช้ระยะเวลาปิดพื้นที่ไม่เกิน 15-20 วัน เนื่องจากมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อค่อนข้างสูง แต่อีกไม่นานยังมีความหวังว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง

สถานการณ์นี้ยอมรับว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีโควิดระบาดระลอกใหม่มาจากสถานบันเทิงภายในจังหวัดทำให้เชื้อกระจายเร็วมากลามไปทุกอำเภอ แต่หลังจากมีบทเรียนครั้งนี้ทุกฝ่ายขอเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับจังหวัด เจ้าหน้าที่ภาครัฐมีมาตรการที่เข้มงวด ใช้กฎหมายตรงไปตรงมาอย่าให้เกิดซ้ำ ขณะนี้ทุกภาคส่วนเริ่มให้ความสนใจว่าปัญหาการระบาดของโควิดในจังหวัด จากความบกพร่องของกลไกภาครัฐ ปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค มีผลทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวทั้งจังหวัดเสียหายหลายร้อยล้านบาทในระยะเวลาไม่กี่วัน จะต้องมีใครต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง หรือมีใครออกมาขอโทษประชาชนในพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐทำงานหละหลวมการ์ดตก

แต่จากการติดตามพบว่ายังไม่มีผลการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของผับใน อ.หัวหิน ที่เป็นสาเหตุหลัก ส่วนผู้บริหารระดับจังหวัด ระดับอำเภอก็นิ่งเงียบทั้งหมดทำอะไรไม่ถูก คาดว่าหลังจากนี้ หากหน่วยงานรัฐยังทำงานหรือมีพฤติกรรมเหมือนเดิมปัญหาก็ไม่จบ เนื่องจากที่ผ่านมานายทุนเปิดสถานบันเทิงง่ายเกินไป ส่วนตัวจึงขอให้ฝ่ายปกครองกับเจ้าหน้าตำรวจควรละเว้นในบางเรื่องและขอให้ตั้งใจทำงาน เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายไม่ต้องการให้มีการระบาดเพิ่มในระลอกต่อไป เพื่อทำลายเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยว

เชื่อว่าหลังจากระบาดอย่างหนักในจังหวัดครั้งนี้ จะมีผลกระทบกับโรงแรมถึงช่วงสิ้นปีสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากมีผลทางจิตวิทยาจากจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดจากสถานบันเทิง จังหวัดถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง สำหรับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ตั้งใจเดินทางไปพักผ่อนในแหล่งธรรมชาติ จะไม่มีผลกระทบเพราะยังเชื่อมั่นมาตรการป้องกันของโรงแรมที่มีมาตรฐาน

ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสงคราม

กรณีเสนอให้มีการล็อกดาวน์ 9 จังหวัดพื้นที่สีแดงนั้น สิ่งที่จะตามมาเมื่อกำหนดพื้นที่สีเเดงใน 9 จังหวัด คือ การถดถอยในภาวะเศรษฐกิจใน 9 จังหวัดใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจทั้งประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแม้แต่จังหวัดสมุทรสงครามจะอยู่ในโซนสีเหลืองไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงแต่ก็ต้องได้รับผลกระทบในทางอ้อมต่อเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเเละชาวสมุทรสงครามได้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ดังจะเห็นได้จากการไม่พบการแพร่โควิดภายในจังหวัดเลยในการระบาดรอบที่ 3 ตัวเลขที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เป็นผู้ติดเชื้อที่ทำงานนอกจังหวัด รับเชื้อมาจากที่อื่น เเละเข้ารับการตรวจ Swab ที่ต่างจังหวัด แต่พอพบเชื้อกลับส่งมารักษายังจังหวัดสมุทรสงคราม ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มที่จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างความกังวลใจให้กับชาวสมุทรสงครามที่ร่วมมือกันปฏิบัติตน ตาม D.M.H.T.T เพื่อลดการแพร่กระจายของโควิด จังหวัดสมุทรสงครามจึงเป็นจังหวัดหนึ่งในเหมาะสมที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่ก็ต้องรับผู้ป่วยจากนอกพื้นที่มารักษาทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว

ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่าการระบาดของโควิดรอบนี้ ติดคนรวย แต่ซวยคนจน ดังนั้น จึงขอให้ ศบค.ได้กำหนดเเนวทางไว้อย่างเข้มงวดในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเร่งด่วน เช่น การควบคุมเคลื่อนย้ายคนเข้าออกเมือง การห้ามไม่ให้มีการรวมตัวของกลุ่มคน ในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยให้จำกัดเวลาการใช้บริการในสถานที่ต่างๆ รณรงค์ประชาชนปฏิบัติตาม D.M.H.T.T อย่างเคร่งครัด มาตรการเว้นระยะห่าง ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งหากดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเข้มงวด สามารถใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้เช่นเดียวกับการระบาดรอบก่อนหน้านี้

ในด้านเศรษฐกิจ การที่รัฐบาลได้ออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฉบับใหม่ช่วยบรรเทาภาระผู้ประกอบการ และขอให้ขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ หากทำให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนจะสร้างบรรยากาศการลงทุนเรียกความมั่นใจด้านเศรษฐกิจของประเทศได้

ส่วนเรื่องปากท้องการช่วยเหลือคนจน ควรเพิ่มกำลังจับจ่ายให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็น โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม33เรารักกัน เป็นต้น หากครบกำหนดก็ขอให้ขยายมาตรการต่อไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย และจะช่วยเรื่องภาวะเศรษฐกิจนี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ นอกจากนี้ การที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และ พ.ร.ก.แก้ไขประมวลกฎหมายพาณิชย์ พ.ศ.2564 ที่ว่าด้วยการลดค่าธรรมเนียมเงินกู้, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้, ภาระหนี้จากสถาบันการเงิน หรือหนี้ที่เกิดจากการทำนิติกรรมต่างๆ

นับว่าเป็นมาตรการที่ช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้ ของผู้ประกอบการ ให้ผ่านในช่วงวิกฤตครั้งนี้ไปได้ อย่างมีนัยยะจึงขอให้รัฐบาลขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมให้ชัดเจน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image