ในที่สุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็จำเป็นต้องงัดเอา พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกมาเป็น “เกราะ” ป้องกัน
“จำเป็น” อย่างยิ่งยวด
เพราะการประกาศและบังคับใช้ พ.ร.ก. “ฉุกเฉิน” เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 เท่ากับ “อำนาจ” ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ถูก “ยึด”
พลันที่เกิด “ศบค.” ขึ้น
อำนาจทุกอย่างก็เข้ามาอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นหัวหน้าศูนย์บริหารราชการ
โควิด
สามารถต่อสายไปยัง “ปลัดกระทรวง”
คนที่เข้าร่วมประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมิใช่รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หากแต่เป็น “ข้าราชการ”
นี่คือ ทางออกของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ต้องยอมรับว่านับแต่เกิดสถานการณ์ “วัคซีน” ต้องยอมรับว่านับแต่เกิดสถานการณ์ “ไทยคู่ฟ้า คลับ” พร้อมกับการแพร่ระบาดรอบที่ 3
“เสี่ยหนู” ก็ตกเป็น “เหยื่อ”
ไม่เพียงแต่เหยื่ออารมณ์ภายใน “ทำเนียบรัฐบาล” หากแต่ยังสะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมจากปฏิบัติการเปิดโปงตรงๆ
นั่นก็คือ โทรสายด่วน 1669
ยิ่งเมื่อมีบางสำนักข่าวตามไปนำเอารายละเอียดของศูนย์ 1669 ออกมานำเสนออย่างเป็นระบบ ยิ่งทำให้ภาพของ “เสี่ยหนู” อยู่ในสภาพ “แพะ”
พลันที่ “หมอไม่ทน” เปิดปฏิบัติการ “ล่ารายชื่อ”
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้รายชื่อ “เรือนหมื่น” เพียง 1 วันก็ทะยานไปสู่ “เรือนแสน” และเด่นชัดยิ่งว่าหลัก 2 แสนอยู่อีกไม่ไกล
“เสี่ยหนู” จึงมีความ “จำเป็น”
ความจริง คนที่ชี้ช่องให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล มิใช่ใครจากไหน หากแต่เป็นโพสต์ของ นายวัฒนา เมืองสุข จากพรรคไทยสร้างไทย
เป็นการชี้ช่องไปยัง “ศบค.”
ชี้ให้รู้ว่า แท้จริงแล้ว อำนาจอันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการบริหารจัดการเรื่อง “โควิด” มิได้เป็นของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
หากแต่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากนี้ที่เคยหงุดหงิดและไม่พอใจต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็สามารถผ่องไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ
ในฐานะที่เป็นคนกุม “ศบค.”
เป็นการกุมตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ผ่านรอบที่ 1 รอบที่ 2 รอบที่ 3 มาจนถึงเดือนเมษายน 2564 ไม่มีใครไหนอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงรับไปเต็ม-เต็ม
นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าเรื่องของ “รัฐธรรมนูญ” ไม่ว่าเรื่องของ “เศรษฐกิจ” ไม่ว่าเรื่องของ “โควิด” พรรคภูมิใจไทยเสมอเป็นเพียง “พระรอง”
บทบาทหลักเป็นของ “พี่ตู่”
ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ในฐานะหัวหน้าพรรค 250 ส.ว. ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้กับโรคระบาด
นี่ย่อมเป็น “มือ” ที่ผายออกจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล
