กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี, นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี, นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี, นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี, นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ, น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ, นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา, นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา แถลงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนแห่งชาติ ปรับแผนกระจายวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาอีก 6 ล้านโดส ให้เป็นธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คำนึงถึงความหนาแน่นของเศรษฐกิจแต่ละจังหวัด และให้น้ำหนักกับจังหวัดที่มีปัญหาอยู่
กลุ่ม ส.ส.ระบุว่าจาก 20 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน กลับพบว่าจังหวัดสีแดงได้รับน้อยกว่าแต่จังหวัดสีขาวและสีเขียว เช่น สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ได้รับเพียง 237,000 โดส จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเกิดคลัสเตอร์โรงงาน ติดเชื้อรวดเร็วและมาก เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ติดต่อกัน 4 วัน หากกลายเป็นสีแดงเข้ม การเดินทางผ่านจะเกิดปัญหามาก แต่ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างเหมาะสม ขอให้นายกฯจัดสรรวัคซีนตามสภาพปัญหาและความหนาแน่นของประชากร ซึ่งการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเรียกร้องเพื่อจังหวัดตัวเอง แต่อยากให้ทบทวนระบบการจัดสรรวัคซีนใหม่ จะเป็นประโยชน์ของประเทศ และช่วยตัดวงจรการติดเชื้อ มีน้อยแบ่งน้อย มีมากแบ่งมาก อย่าแบ่งบนพื้นฐานความไม่เป็นธรรม เล่นพรรคเล่นพวก
ถือเป็นข้อทักท้วงที่น่าจะต้องพิจารณา เพราะก่อนหน้านี้ มีเสียงจากประชาชนจากจังหวัดต่างๆ สอบถามกันมากว่ารัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนรับวัคซีน แต่เมื่อจะไปฉีดกลับไม่มีวัคซีน การออกโรงของ ส.ส. สอดคล้องกับข้อร้องเรียนของประชาชน ประเด็นสำคัญก็คือ รัฐบาลต้องเร่งรัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา หรือสั่งซื้อ และนำเข้าวัคซีนให้มีปริมาณที่มากเพียงพอ หลังจากที่เกิดสภาพยาต้านไวรัสขาดเมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้ มาถึงห้วงเวลาที่วัคซีนไม่เพียงพอ ขณะนี้มีข่าวน่ายินดีว่าผู้ผลิตแอสตร้าเซนเนก้ายืนยันว่าจะส่งในเดือนมิ.ย.ตามกำหนด แต่รัฐบาลควรเพิ่มทางเลือกด้วยวัคซีนตัวอื่นๆ ไปพร้อมกัน
