พรรครัฐบาลเตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเร่งพิจารณาในเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่หลายฝ่ายทักท้วงว่า ประเด็นแก้ไขที่ผลักดันกันอยู่ เป็นเรื่องที่พรรครัฐบาลได้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง และจงใจละเลยในเรื่องการขยายสิทธิเสรีภาพของประชาชน และนำเอาความเป็นประชาธิปไตยกลับคืนมา โดยเฉพาะประเด็นอำนาจ ส.ว. ที่ให้ 250 ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดกับหลักประชาธิปไตย และขัดกับแนวทางในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ แกนนำกลุ่ม Re-solution ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐสภารวบรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญปลายเดือนมิถุนายน มีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ส.ว.และ ส.ส.ปัดตกร่างแก้ไขอย่างไร้เยื่อใย มีกลไกมากมายในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่สร้างมาเพื่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. มีประเด็นมากมายที่จำเป็นต้องแก้ไข ทั้งเรื่องวุฒิสภา เรื่ององค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และผลพวงการรัฐประหาร แต่ที่จะแก้ไขตอนนี้เป็นเรื่องผิวเผิน เช่น ระบบเลือกตั้ง การเพิ่มสิทธิคุ้มครองทางอาญา ซึ่งไม่ได้แก้ถึงรากของปัญหาของรัฐธรรมนูญ ร่างที่พยายามผลักดันแบบลักหลับนี้อาจมองได้ว่าเป็นไปเพื่อการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อาจจะเป็นการเกี้ยเซี้ยกันเพื่อให้สมประโยชน์กับตัวเองและกลุ่มคนไม่กี่กลุ่มมากที่สุด แต่ประชาชนกลับไม่ได้อะไรที่สำคัญเลย
พรรคการเมืองต่างๆ น่าจะหารือกันว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด แน่นอนว่า วิธีการเลือกตั้ง การคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. จะผ่านรัฐสภาได้ง่าย แต่เรื่องใหญ่กว่าที่จำเป็นต้องทำแม้ว่า ส.ว.ไม่เห็นด้วย คือการแก้ไขเรื่องอำนาจของ ส.ว.ในการกำหนดตัวนายกรัฐมนตรี ประเด็นอำนาจ ส.ว.นี้ถือเป็นปัญหาหลักการ สภาผู้แทนฯ ในฐานะที่มาจากประชาชน ไม่ควรประนีประนอม เก็บเรื่องเอาไว้ก่อน แต่จะต้องยืนยันเสนอแก้ไขจนกว่าจะแก้ไขได้ มีเสียงท้าทายมาตลอดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ไม่ยาก ขอเพียงแต่ ส.ส.ทั้งสภาจับมือกัน แต่เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะนักการเมืองไทยยังเห็นแก่อำนาจเฉพาะหน้า การเมืองไทยจึงตกในสภาพวิกฤตตลอดเวลา
