บทนำวันพุธที่4สิงหาคม2564 : ล็อกเพิ่ม25%

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในประเทศไทย ที่มีการปรับมาตรการให้เข้มข้น เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 3 ส.ค.64 เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด สำหรับผลการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ ว่ากราฟแสดงสถานการณ์ของไทย ผู้ป่วยใหม่ยังเพิ่มขึ้น ผู้หายป่วยก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ผู้ป่วยใหม่มากกว่าผู้หายป่วย ทั้งนี้ ตัวเลขสถานการณ์จริงทั้งการติดเชื้อและเสียชีวิตใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ประสิทธิภาพการล็อกดาวน์ 20% อย่างไรก็ตาม หากเพิ่มประสิทธิภาพการล็อกดาวน์ เป็น 25% ร่วมกับการฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงค่อนข้างมาก ดังนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพแค่ 5% ก็จะมีผลอย่างมาก

ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขกล่าวอีกว่าขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยกันล็อกดาวน์ให้ถึง 25% งดการเดินทาง การพบปะ สถานการณ์เตียงขณะนี้ เต็มเกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เรียกว่า “ล้นเตียง” ทั้งนี้ ทั่วประเทศขยายเตียงดูแลโควิด-19 ได้ถึง 185,417 เตียง เป็นต่างจังหวัด 143,758 เตียง และกรุงเทพฯ 41,659 เตียง มีการครองเตียงแล้ว 70-80% โดยกรุงเทพฯสูงเกือบ 90% เตียงทุกระดับมีการนอนแทบเกิน 80% ขึ้นไปทั้งสิ้น เกินกว่านี้ต้องอาศัยการดูแลที่บ้านและชุมชน เพื่อเชื่อมต่อระบบบริการไปดูแลที่บ้านได้ในคนอาการน้อย ถ้าอาการมากขึ้นก็เข้าระบบ รพ. ส่วนการเดินทางมีแนวโน้มลดลง แต่ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว อย่างกรุงเทพฯ และ จ.ชลบุรี ปีที่แล้ว ลดลงได้ 80% กว่า ส่วนปีนี้ทำได้เพียง 70% กว่า ต้องขอความร่วมมือเพื่อให้ความเสี่ยงลดลง

คำแถลงดังกล่าวชี้ว่าวิกฤตโควิดยังจะยืดเยื้อต่อไป ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวัน ในต้นเดือน ส.ค. ถือว่ายังสูงมาก ในระดับ 1.7-1.8 หมื่นคน ส่วนการฉีดวัคซีนทำได้ 17.8 ล้านโดส ยังห่างจากเป้าหมาย สิ่งที่ประชาชนต้องการในเวลานี้ คือการบริหารจัดการที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนและประชาชนเข้าถึงได้ ทั้งการจัดสรรวัคซีน และการดูแลผู้ติดเชื้อ ซึ่งรัฐต้องเอาใจใส่การทำงานของเจ้าหน้าที่ และเปิดรับพร้อมกับระดมความร่วมมือจากทุกฝ่ายเข้ามาสนับสนุน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image