ส.ส.พรรคพลังประชารัฐแสดงความเห็นต่อการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยกเลิกคำสั่งที่ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยรับผิดชอบดูแลว่าต้องเคารพการตัดสินใจของนายกฯ เมื่อเป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องรับผิดชอบในการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ถ้าประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความลำบากยากจน ก็เป็นผลงานร่วมกันอยู่แล้ว
นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เป็นธรรมชาติของพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะแสดงความเห็นต่างกันบ้าง แต่อย่าไปคิดมากว่ายก 4 กรม คืนแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะคุมเบ็ดเสร็จ หรือได้คะแนนนิยม เพราะภารกิจของรัฐบาล คือช่วยให้ประชาชนพ้นทุกข์ นอกจากบริหารงานตามอำนาจรัฐ ต้องช่วยชาวบ้านด้วย ดังนั้นอย่าไปทิฐิว่าใครจะคุมกรมไหน ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. กล่าวว่า เมื่อนายกฯตัดสินใจแล้วต้องยอมรับ เพราะอำนาจบริหารงาน หรือการจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือเป็นดุลพินิจและเป็นอำนาจโดยชอบของนายกฯ เราไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะไม่มีรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสุดท้ายก็ต้องผ่านนายกฯ และ ครม.พิจารณาก่อนจะขับเคลื่อนงาน ส่วนที่มีการแสดงความเห็นตอบโต้กันก่อนหน้านั้นก็เป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ ได้ โดยต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมืองและอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละคนด้วย
การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี อาจช่วยยุติข้อขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่สำหรับการเมืองภายในพรรคอาจเป็นปัญหาได้ เพราะก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรฯ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ สิ่งที่พึงระวังก็คือ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลที่มีผู้นำ คสช. ร่วมอยู่หลายคน และ คสช.เคยประกาศปฏิรูปการเมืองหลังรัฐประหาร 2557 โดยอ้างว่าเพื่อให้พ้นจากการเมืองที่เต็มไปด้วยข้อขัดแย้งจากการแก่งแย่งอำนาจ ตำแหน่ง และผลประโยชน์ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐต้องหลีกเลี่ยงไม่ตกในวังวนที่ผู้นำพรรคเคยประกาศว่าจะปฏิรูปเสียเอง
