หมายเหตุ – ความเห็นผู้ประกอบการ กรณีที่ประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 มีมติปรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 69 จังหวัด เหลือเพียง 44 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เป็น 25 จังหวัด พร้อมคงพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 8 จังหวัด มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 65ร้านอาหารพื้นที่สีเหลืองและพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. จากเดิม 21.00 น. และเปิดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศลงทะเบียนใหม่ด้วยระบบเทสต์แอนด์โกตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้
ฐนิวรรณ กุลมงคล
นายกสมาคมภัตตาคารไทย
ถือว่าพอใจในมติเพราะการที่เปิดร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. ถือว่าตรงกับชีวิตปกติของผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคารอยู่แล้ว ซึ่งมีรายได้หลักมาจากการเปิดร้านให้นั่งรับประทานอาหาร การจำหน่ายเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบริการต่างๆ แม้ว่าช่วงต้นเดือนมกราคม 2565 สมาคมจะมีการสนับสนุนเรื่องการทำข้าวกล่องให้กับผู้ป่วยที่รักษาที่บ้าน (โฮมไอโซเลชั่น) เพื่อเป็นรายได้เสริม ในช่วงที่ยังทำธุรกิจร้านอาหารไม่ได้ปกติ แต่กลับพบว่าไม่ได้คุ้มค่าเลย เมื่อเทียบกับการเปิดร้านได้ปกติ ดังนั้น ผู้ประกอบการก็ยินดีอย่างมาก ที่ได้กลับมาค้าขาย ได้ความเป็นปกติกลับคืนมา
สำหรับพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่สีส้ม จำนวน 44 จังหวัด ยังไม่อนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้นั้น มีสมาชิกร้านอาหารและภัตตาคารจำนวนหนึ่ง อาทิ นครปฐม ได้ร้องเรียนมาที่สมาคมว่าร้านนั้นติดกับกรุงเทพมหานคร แต่กลับเปิดไม่ได้ อยากให้สมาคมช่วย อาจด้วยการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนไม่เข้าใจสถานการณ์ที่อาจจะยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก อยากให้สาธารณสุขหรือ ศบค.ประจำจังหวัด ช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อทำความเข้าใจกันภายในพื้นที่ ว่าเสี่ยงอย่างไร ยังมีคลัสเตอร์ใดที่กังวล ทางสมาคมอยากให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สีส้มได้รับการดูแล เพราะถือว่าเสียเปรียบและเสียโอกาสทางธุรกิจ
หลังจากนี้ สมาคมจะประชาสัมพันธ์ร้านอาหารในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สีส้ม ในเรื่องของการทำการประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข และมาตรการรักษาความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 (ไทยสต๊อปโควิด) ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม และสมาคมจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ ศบค.ให้ เมื่อรัฐบาลพิจารณาเปิดพื้นที่จะได้มีโอกาสเปิดทันที
อย่างไรก็ตาม โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังอยู่ ผู้ประกอบการร้านอาหารกังวลว่าลูกค้าอาจจะไม่กล้าออกมาใช้บริการ เพราะโอมิครอนนั้นมีลักษณะที่ติดต่อกันง่าย ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องตระหนัก โดยเฉพาะร้านที่เป็นพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวกต้องมีการดูแลหาทางช่วยระบายอากาศ หรือมีการทำความสะอาดที่ถี่ขึ้น ผู้ประกอบการก็ต้องช่วยกันรักษามาตรฐาน ส่วนร้านไหนถ้าพบว่าดำเนินการหละหลวม ก็อาจจะช่วยไปเตือน
ขณะนี้กลุ่มคนธุรกิจร้านอาหารพยายามทำทุกอย่าง รักษามาตรการ มีความเข้มงวดตามที่ สธ.และ ศบค.กำหนด รู้สึกดีใจที่รัฐบาลไม่เหมารวมร้านอาหารเป็นคลัสเตอร์ที่เสี่ยงติดโควิด ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจร้านอาหารได้ ขณะที่ประชาชนต้องตระหนักไม่เลือกไปสถานที่เสี่ยง ร้านอาหารไหนแออัด คนแน่นเกินไป ดูแล้วไม่ปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยง ผู้บริโภคต้องป้องกันตนเอง รู้ตัวตลอดเวลา ยึดมาตรการป้องกันโควิดแบบครอบจักรวาลไว้ จะเป็นอีกทางให้ร้านค้ารู้ตนเองและตระหนักที่จะเข้มงวดในมาตรการด้วย
ธนิต ชุมแสง
นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่
กรณี ศบค.ไฟเขียวร้านอาหารจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมขยายเวลาจนถึง 5 ทุ่ม เชียงใหม่ยังอยู่ในกลุ่มสีส้มที่มีการระบาดโควิดสูงอยู่ ซึ่งได้รับอนุญาตให้จำหน่ายแอลกอฮอล์และเปิดบริการจนถึง 23.00 น. เพียง 5 อำเภอ จาก 25 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.จอมทอง และ อ.ดอยเต่า ที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ดังนั้น อยากให้ ศบค.พิจารณาผ่อนปรนให้เปิดจำหน่ายและดื่มได้ครบทั้ง 25 อำเภอ เพื่อความเท่าเทียมและช่วยฟื้นและประคองกิจการดังกล่าวให้อยู่รอดต่อไปได้
ปี 2562 มีร้านอาหารและสถานบันเทิงกว่า 10,000 แห่ง หลังโควิดระบาดเหลือเพียง 7,000-8,000 แห่งเท่านั้น และปิดกิจการชั่วคราวกว่า 50-60% ถ้าเปิดให้ครบทุกอำเภอ เชื่อว่าจะกลับมาเปิดใกล้เคียงกับจำนวนที่เหลืออยู่อีกครั้ง เนื่องจากได้ลงทุนกิจการไปมากแล้ว หากรัฐบาลผ่อนปรน สถานการณ์ท่องเที่ยวเชียงใหม่กลับมาคึกคัก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อยากมาเที่ยวเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และวิถีชีวิตชุมชนมากที่สุด
ส่วนสถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ขอปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร เพื่อจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ได้ตามหลักเกณฑ์ ศบค.นั้น มีผู้ไปทำเรื่องขออนุญาตเพียง 100-200 รายเท่านั้น เนื่องจากต้องการเปิดกิจการโดยเร็ว เพื่อรับรองการท่องเที่ยวแบบแซนด์บ็อกซ์และเทสต์แอนด์โกที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลงทะเบียนเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว บางส่วนได้ผ่านการอบรมด้านมาตรฐานสาธารณสุข หรือ SHA และ SHA+ มาแล้ว พร้อมปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยและความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวด้วย
อย่างไรก็ตาม เชียงใหม่มีบทเรียนในช่วงปีใหม่ที่มีสถานประกอบการบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุข ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิดในวงกว้างหรือคลัสเตอร์ใหญ่ จึงจำเป็นต้องเข้มงวดและให้ความร่วมมือเพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองโควิดโอมิครอน ที่มีการระบาดรอบที่ 5 หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัดด้วย
รัชชพร พูลสวัสดิ์
นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย
การยกเลิกรูปแบบเทสต์แอนด์โกก่อนหน้านี้ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า ลดลงไป 20-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังดีที่ให้รับนักท่องเที่ยวในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ยังค้างในระบบไทยแลนด์ พาส เข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มากเหมือนในเทสต์แอนด์โกก็ตาม
ก่อนนี้ได้เข้าพบนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หลังจากพบว่า เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่ายังมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางเข้ามาตามโครงการแซนด์บ็อกซ์ ไม่เข้าเป้าตามที่วางไว้ จึงจะขอให้ปรับมาใช้เทสต์แอนด์โกใหม่อีกครั้ง ซึ่งเกาะสมุย นอกจากจะมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางจากเที่ยวบินตรง ยังประสบปัญหากับกฎระเบียบของโรงแรมที่มีชาพลัสด้วย
กฎระเบียบบางข้อไม่สอดคล้องกับการรับนักท่องเที่ยวในระบบแซนด์บ็อกซ์ อาทิ การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ยังกำหนดไม่ให้เกิน 21.00 น. เรามองว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในระบบแล้ว เขาควรที่จะใช้ชีวิตได้เสรีในบริเวณโรงแรมที่พัก เพราะผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแล้ว พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวจะเป็นลักษณะการใช้บริการในร้านอาหารภายในโรงแรม หรือภายในห้องพักของโรงแรมเท่านั้น สามารถควบคุมได้
กระทั่งล่าสุดได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไปใช้รูปแบบเทสต์แอนด์โกใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป อนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ ที่ผ่านมามีผู้ลงทะเบียนระบบเทสต์แอนด์โก ประมาณ 3 แสนราย เข้ามาประมาณ 1 แสนราย จะเป็นประโยชน์จากการที่มีผู้เข้ามาทั้งผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและคนไทย ขณะเดียวกันจะมีนักลงทุนต่างๆ เข้ามาด้วย และปรับขยายเวลาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมเป็นต้นไป
แนวโน้มกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่จะมีการเดินทางเข้ามาในอนาคตข้างหน้า คือ กลุ่มอิสราเอลและยูเครน แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเดินทาง ซึ่งเกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่ามีข้อจำกัดไฟลต์เที่ยวบินที่มีไฟลต์บินตรงน้อย แม้ว่าสนามบินสมุยจะมีการจัดเที่ยวบินที่แยกระหว่างนักท่องเที่ยวกับกลุ่มภายในประเทศ แต่ยังถือว่าเป็นข้อจำกัดการเดินทางเข้ามายังพื้นที่
และเท่าที่ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการทั้ง 3 เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่ผ่านมาไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาด เพราะรู้ตัวดีว่ารายได้จากการท่องเที่ยว คือรายได้หลักและคนในพื้นที่รู้จักป้องกันตัวเอง มีความรู้ในการป้องกันโรคระบาด
จีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา
ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมา
ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร และการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 โดยลดพื้นที่ควบคุมสีส้ม จาก 69 จังหวัด เหลือเพียง 44 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังสูงสีเหลือง เป็น 25 จังหวัด ขณะเดียวกันให้คงพื้นที่สีฟ้า นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565 เป็นต้นนั้น
จังหวัดนครราชสีมายังคงอยู่ในกลุ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุมสีส้มตามเดิม แม้จะไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน แต่ร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม ยังมีข้อจำกัดอยู่ โดยร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่มีร้านอาหาร สามารถบริโภคในร้านและเปิดได้ตามปกติ แต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ถือเป็นการตัดวงจรอาชีพหลายอย่าง โดยเฉพาะร้านอาหาร-เครื่องดื่มที่อยู่นอกพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ต่างพากันลำบาก ทำมาหากินยาก หลายคนที่มีอาชีพนักดนตรี นักร้อง เด็กเชียร์เบียร์ เด็กนั่งดริงก์ ต้องตกงาน หันไปทำอาชีพอื่น เพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงตัว-เลี้ยงครอบครัว
ในขณะที่ร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่มในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวของจังหวัด เช่น ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว อ.พิมาย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ สามารถเปิดและบริโภคในร้านได้ตามปกติ และ ศบค.ขยายเวลาให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 23.00 น. จากเดิมถึงแค่เวลา 21.00 น.เท่านั้น การผ่อนคลายมาตรการนี้ มีผลบังคับใช้วันที่ 24 มกราคมนี้ เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการได้มีช่องทางทำรายได้มากขึ้น ส่วนผู้บริโภคก็นั่งดื่มได้ยาวขึ้น วงจรการทำมาหากินก็จะสะดวกขึ้นตามไปด้วย ถือว่าช่วยต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่หาเช้ากินค่ำได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี และซ้ำมีสายพันธุ์ใหม่ๆวิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนรู้สึกกังวล ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายเมื่อไหร่ แต่ละคนจึงหันมาดูแลระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์การระบาดของโรคให้ได้ แต่ในภาคเศรษฐกิจกลับยิ่งฝืดเคืองหนักขึ้น จึงอยากให้รัฐบาล ศบค. และหน่วยงานที่มีอำนาจแก้ไขปัญหาเรื่องโรคระบาดและเรื่องเศรษฐกิจ ได้จับมือพูดคุยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างออกมาตรการมา แค่ให้ตัวเองไม่เดือดร้อนเท่านั้น
แต่ที่สำคัญ ขอให้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคกับผู้ประกอบการบ้าง อย่าแก้ปัญหาโดยอาศัยหลักวิชาการเพียงอย่างเดียว ต้องมองในมุมของผู้ปฏิบัติและผู้ที่ประสบปัญหาจริงในขณะนี้ด้วย เพราะมีประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งร้านอาหารจำนวนมากที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ ต้องดิ้นรนหาเงินกันทุกวัน จะหวังรอให้รัฐบาลมาช่วยเพียงอย่างเดียวก็คงไม่รอด รัฐบาลจึงต้องให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆ ด้วย จึงจะมองเห็นปัญหาได้อย่างรอบด้าน และเมื่อแก้ไขได้ตรงจุด ก็เชื่อว่าจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็วและดีกว่าที่เป็นอยู่นี้
