เบื้องหลัง เตะสกัด ‘ไพบูลย์’ นั่งปธ.กมธ. เหตุเกิดที่สภา ร้อนถึงทำเนียบรัฐบาล

เบื้องหลัง เตะสกัด ‘ไพบูลย์’ นั่งปธ.กมธ. เหตุเกิดที่สภา ร้อนถึงทำเนียบรัฐบาล         

มติ 22 ต่อ 21 เสียงกมธ.โหวตให้ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ปาดหน้าชนะ ไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.จากพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นนั่งประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพรรคการเมืองถือว่า เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย

เป็นความเหนือความคาดหมาย เพราะ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ถือว่า เป็นตัวเต็ง

เต็งในฐานะเป็นคนจากพลังประชารัฐ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เต็งในฐานะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ การันตีให้ก่อนที่จะมีการโหวต โดยเชื่อมั่นว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน จะทำหน้านี้ได้ดี

ดังนั้น เมื่อ พล.อ.ประวิตร การันตี จำเป็นอย่างยิ่งที่ วิปรัฐบาล จะต้องเด้งรับ นำมาประสาน

Advertisement

ถามว่า เหตุอะไรที่ทำให้ชื่อของ นายสาธิต ปิตุเตชะ สามารถแทรกขึ้นมา มีชัยเหนือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน คนที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่งมาได้

ทั้งนี้ ต้องยอมรับ สัดส่วนกมธ.ทั้งคณะ จำนวน 49 คน แบ่งเป็นของ คณะรัฐมนตรี 8 คน ส.ว. 14 คน และ ส.ส. 27 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 8 คน พรรคพลังประชารัฐ 6 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคก้าวไกล 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน และ พรรคประชาชาติ อีก 1 คน

ฉะนั้น หากนับเฉพาะ จำนวนกมธ.จาก ฝ่ายค้านเพียวๆ หรือเสียงของฝ่ายค้าน รวมเสียงจากซีกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังเป็นไปไม่ได้เลยที่ จะเอาชนะเสียงของฝ่ายรัฐบาลได้

Advertisement

เพราะยังมีสัดส่วนของครม. และที่สำคัญ ยังมี “ด่านหิน” สำคัญอยู่ที่เสียงของส.ว. ที่มีสูงถึง 14 คนด้วย

ฉะนั้น การที่ นายสาธิต ชิงปาดหน้าชนะ นายไพบูลย์ได้ จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา 

ทั้งนี้ นายสาธิต ออกมายอมรับ หลังได้ชัยชนะว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกล ได้โทรศัพท์มาทาบทาม

“ผมก็ไม่เชิงปฏิเสธ เพราะเป็นเรื่องของกมธ.ที่จะต้องพูดคุยกัน และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯก็แนะนำไม่ให้ไปร่วมประชุม เพราะหากรัฐมนตรีไปกมธ.จะให้เกียรติเป็นประธาน ก็เลยไม่ไป และไม่ทราบว่า จะมีการเสนอชื่อ แต่เมื่อเสนอ และโหวตชนะ จึงได้โทรมาแจ้ง เพื่อให้ผมยืนยันว่า จะทำหน้าที่ประธานหรือไม่ ผมก็พร้อมทำหน้าที่เพื่อไปดูกฎหมายเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายสาธิต ระบุ

ถามว่า หากเป็นกมธ.ในสัดส่วนแท้ๆ ที่ พรรคก้าวไกล เสนอ  3 คน ทั้ง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ทั้ง นายณัฐวุฒิ บัวประทุม และทั้ง นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่อยากให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ขึ้นทำหน้าที่ประธานกมธ.คณะนี้

เพราะที่ผ่านมา โดยเฉพาะ นายไพบูลย์ กับ นายธีรัจชัย ถือว่าวิวาทะกันมาอยู่ตลอด

อย่างที่ นายธีรัจชัย ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับตรงๆว่า ถ้าเสนอชื่อนี้ จะขอคัดค้าน

“นายไพบูลย์ยุบพรรคตัวเองไปอยู่พลังประชารัฐ เท่ากับไม่ได้เคารพเสียงประชาชน 45,000 คะแนนที่เลือกมา จะมาทำกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ก็จะแปลกๆ ไม่สง่างามเท่าไหร่ อีกทั้งครั้งที่แล้วนายไพบูลย์ทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก จึงคิดว่า ให้ท่านอื่นเป็นประธานน่าจะเหมาะสมกว่า” นายธีรัจชัย กล่าว

แต่ที่น่าสนใจในกรณีนี้ กลับไม่ใช่ 3 คนที่ว่ามา เพราะนายสาธิตกลับถูกเสนอชื่อ โดยส.ส.ก้าวไกล ที่เป็นกมธ.ในโควต้า พรรคภูมิใจไทย

เพราะ นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ผู้ที่เสนอชื่อนายสาธิตนั้น ถูกจัดให้เป็น “ก้าวไกลเทียม” อีหรอบเดียวกับ นายคารม พลพรกลาง ไปแล้ว

นี่จึงทำให้ เรื่องเกิดที่ “รัฐสภา” จึงร้อนมาถึง “ทำเนียบรัฐบาล” เรียกแกนนำ ปิดห้องสีเหลืองถามทันที

เพราะนอกจากจะมีคนระดับ “รัฐมนตรี” ถูกเสนอชื่อขึ้นมาประกบแล้ว ยังมีกมธ.จากพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมรู้เห็นในกรณีนี้อย่างแน่นอน

โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือ ตามความต้องการของ พล.อ.ประวิตร เพื่อสอบถามว่า เกิดข้อผิดพลาดอะไร ทำไมประธานกมธ.ดังกล่าว จึงโหวตได้ชื่อนายสาธิต ทั้งที่เสนอชื่อ นายไพบูลย์ ทำให้ทุกคนต่างช่วยกันหาเหตุผล ซึ่งหนึ่งในวงหารือระบุว่า ผู้เสนอชื่อนายสาธิต เป็นคนของภูมิใจไทย ทำให้ นายอนุทิน ชี้แจงขึ้นว่า “ไม่มีใครประสานใดๆ มาเลย ผมไม่รู้เรื่อง”

อย่างไรก็ตาม เรื่องในทำนองนี้ เกิดขึ้นในกมธ.ซ้อมทรมาณ-อุ้มหายมาแล้ว ที่ฝ่ายค้านพลิกได้เป็นประธาน

แหล่งข่าวจากวิปรัฐบาล รับว่าตั้งแต่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ความละเอียดในการประสานงานถือว่า ลดลงไปเยอะ ที่ผ่านมา เวลามีการเลือกตั้งตำแหน่งประธานกมธ.ชุดสำคัญๆ นายวิรัชจะลงมาเดินประสานงาน พูดคุยด้วยตัวเอง แม้จะเป็นหรือไม่เป็นกมธ.ก็ตาม

ยิ่งวันโหวตวันนี้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองปธ.วิปฯ ผู้ที่รับหน้าที่มายืนยันให้กมธ.สัดส่วนประชาธิปัตย์ เลือกนายไพบูลย์ เกิด “แอคซิเดน” มาไม่ทัน เพราะเครื่องบินจากนครฯ เข้ากรุงเทพ ดีเลย์ 1 ชั่วโมง

ยิ่งในวันที่รู้กันล่วงหน้าแบบนี้ว่า นายสาธิต จะถูกเสนอชื่อ และพร้อมที่จะรับตำแหน่งด้วย แต่กมธ.ซีกรัฐบาลยังปล่อยให้มีการลง “คะแนนลับ” แบบนี้

เรื่องมันเลย “กลับตาลปัตร” จับมือใครดมไม่ได้เลย  

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image