โชว์‘แคนดิเดตผู้นำ’ สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

โชว์‘แคนดิเดตผู้นำ’ สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า หมายเหตุ - ความเห็นนักวิชาการ

โชว์‘แคนดิเดตผู้นำ’ สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

หมายเหตุความเห็นนักวิชาการกรณีพรรคการเมืองทยอยเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า

โอฬาร ถิ่นบางเตียว
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

Advertisement

ช่วงนี้จะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายพรรคการเมือง มองว่าเป็นสัญญาณของพรรคการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

แต่การเปิดตัวว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้นถือว่าเป็นบทบาทของหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งหมด ที่จะต้องแสดงสปิริตทางการเมืองให้เห็นภาวะผู้นำว่า ตัวเองมีความพร้อมอย่างไรบ้างหากมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ที่สำคัญพรรคที่เป็นแกนนำจะต้องมีเสียงมากน้อยแค่ไหนที่จะเป็นรัฐบาล พรรคเด่น พรรคเดียว ถ้าไม่ได้ก็จะต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

Advertisement

ขณะเดียวกันจะต้องมีบารมีทางการเมืองมาก ในการที่จะต้องให้ ส.ว.ช่วยโหวตด้วย ถ้าไม่แลนด์สไลด์จริงๆ และได้ ส.ส.เกินครึ่ง ก็ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ จะต้องพึ่งพา ส.ว. เนื่องจากโครงสร้างและการออกแบบดีไซน์ไว้อย่างนี้

การเลือกตั้ง ส.ส.ในอนาคต เมื่อสิ้นสุดวาระของรัฐบาล หากดูจากการเปิดตัวของหลายพรรคการเมือง มองว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล ดูดีที่สุด คาดว่า ส.ส.ที่จะได้รับการเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ต่ำกว่า 100 คนประกอบกับลักษณะการทำงานการเมืองที่ผ่านมา มีความสุขุมมากขึ้น และทำการบ้านดี ถึงแม้ว่าจะมีแรงเสียดทานอย่างมากมาย

แต่ก็ยังเก็บอารมณ์ หรือบริหารทางอารมณ์ได้ดีขึ้น แสดงว่าสามารถทำงานทางการเมืองกับหลายพรรคการเมืองได้ คอนเน็กชั่นและบารมีทางการเมืองกับ ส.ว.คิดว่ามีพอสมควร ดูได้จากการไม่รับหลักการร่างแก้ รธน. ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ผ่านทั้ง 4 ฉบับ เมื่อดูทิศทางแล้วหลายคนอยากตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

ถ้านายอนุทินวางแผนจะเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องควบรวม ส.ว.และคิดว่าไม่เกินอำนาจของนายอนุทิน ที่จะให้การสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีจุดอ่อนมาก เนื่องจากประกาศว่าพร้อมจะแลนด์สไลด์ แต่ไม่ประกาศว่าใครพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่หลายพรรคการเมืองประกาศให้หัวหน้าพรรคการเมืองพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

แต่พรรคเพื่อไทยถือว่ามีจุดอ่อนมาก ไม่ประกาศความพร้อมว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจจะเป็นกลเม็ด หรือยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทำให้สังคมตั้งคำถาม สุดท้ายแล้ว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำไมไม่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แล้วใครเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง มองว่า นพ.ชลน่านเป็นนอมินีหรือเปล่า ทำให้มองว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการเปิดจุดอ่อนขึ้น

หากมองถึง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผมมองว่าไม่ใช่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นตัวแทนของนายทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องจิตวิญญาณของพรรคที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตระกูล “ชินวัตร” ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยเป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจ ทำให้มองว่ามีอำนาจกดทับ ส่งผลให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นใครก็ไม่รู้ ทำให้เสียรังวัดทางการเมืองมาก

พรรคประชาธิปัตย์หากชู นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี มองดูแล้วโอกาสริบหรี่ เพราะพรรคไม่มีอนาคตเลย เนื่องจาก ส.ส.พื้นที่หลักไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ หรือภาคใต้ กล่าวไปแล้วแทบไม่มีโอกาสจะได้รับการเลือกตั้งเลย หากจะมาชู นายชวน หลีกภัย หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะพบว่านายชวนสูงวัยเกินไป ไม่สามารถรองรับสถานการณ์การเมืองในรูปแบบใหม่ได้ หรือนายอภิสิทธิ์ก็มีบาดแผลจากปี 2554 จากการตัดสินใจทางการเมืองที่ผิดพลาด ทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องรับผลกรรมมาถึงปัจจุบัน มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีได้เหมือนกัน แต่อาจจะเกิดความขัดแย้งอย่างหนักกับสังคมในยุคปัจจุบัน

ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องเคลียร์กับพรรคการเมืองทุกฝั่งเพราะมองว่าพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่มีคะแนนเสียงท่วมท้น จึงต้องไปจับไม้จับมือกับพรรคการเมืองอื่น ในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการประนีประนอมกัน

ที่สำคัญยังมีความสัมพันธ์กับทักษิณ ชินวัตร และยังเป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งสามารถคุมพรรคการเมืองและ ส.ว.ได้ และมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะสถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนสังคมจะรับได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. หากได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะภาพลักษณ์ช่วงที่เป็นตำรวจดีมาก มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีข้อด่างพร้อยทางการเมือง คิดว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐกำลังมองอยู่เหมือนกัน หากเปรียบเทียบกับ พล.ต.อ.พัชรวาท มีสายสัมพันธ์ กับทักษิณ และ พล.อ.ประวิตรอาจจะมีจุดอ่อน แต่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับ พล.อ.ประวิตร อาจจะมีความสนิทชิดเชื้อกัน แต่ภาพลักษณ์ทางการเมืองไม่ได้สนิทสนมกับผู้ใด ทำให้สังคมรับได้

หากกล่าวถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย คุณหญิงสุดารัตน์ นายพิธา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ดูแล้วเป็นพรรคขนาดกลาง หรือขนาดเล็กมากกว่า ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 แก้มาเป็นบัตร 2 ใบ และหาร 100 ทำให้พรรคที่กล่าวมาจะได้จำนวน ส.ส.น้อย จึงไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าทุกคนได้แสดงถึงการเป็นภาวะผู้นำทางการเมือง

ส่วนแพทองธาร ชินวัตร ตามหลักนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้เหมือนกัน แต่จะเป็นการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองได้เช่นเดียวกัน เพราะคนไม่ชอบทักษิณก็ยังมี รวมทั้งสถานการณ์การเมืองยังมีความขัดแย้งกันอย่างเข้มข้น ประเด็นการเมืองจะถาโถมแพทองธารเหมือนกับทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่โดนมาแล้ว ทำให้ตระกูลชินวัตรต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบครอบ ทำให้ไม่กล้าเสนอแพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ต้องมองว่าพรรคการเมืองจะต้องตรงไปตรงมากับประชาชน ก็อยากให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน เพราะเป็นหัวหน้าพรรค ถึงแม้ว่ากฎหมายจะกำหนดไว้ว่าใครก็ได้ที่พรรคการเมืองเสนอชื่อ แต่โดยมารยาททางการเมือง นพ.ชลน่านเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้หัวหน้าพรรคมีความสง่างามและทรงเกียรติ แต่วันนี้ก็ยังงงว่า นพ.ชลน่านเป็นใครกันแน่ภายในพรรคเพื่อไทย

ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ดูแล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้ถึงแม้ว่าจะมีภาวะผู้นำ และเป็นผู้รับผิดชอบก็ตาม

มองย้อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ หากไปต่อได้ คาดว่าจะไปแค่ 2 ปีที่เหลือหากมองในเรื่องเอกสารหลุด ก็ต้องมามองว่าใครจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะเป็นได้แค่ 2 ปี ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการประนีประนอมหรือต่อรองกัน เพราะหลายคน หลายพรรคการเมือง ไม่อยากให้อยู่ในสมการการเมือง ประกอบกับคะแนนนิยมตกต่ำมากแล้ว คงไม่มีใครเอามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ส่วน พล.อ.ประวิตร ช่วงนี้ดูแล้วพยายามสร้างภาวะผู้นำทางการเมือง ซึ่งก็มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้เหมือนกัน

ชัยธวัช เสาวพนธ์
นักวิชาการอิสระ จ.เชียงใหม่

การเปิดตัวของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถือว่าทุกคนมีความเหมาะสมเป็นแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีได้ ขึ้นอยู่กับเวลาโอกาสและความพร้อมแต่ละคนที่สำคัญประชาชนจะให้โอกาสดังกล่าวหรือไม่กรณี พล.อ.ประวิตร มองว่า จุดเด่นเป็นคนเดินเกมการเมืองค่อนข้างนุ่มนวล ไม่ดุดันแข็งกร้าว เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สังเกตจากท่าทีและการวางตัวทางการเมืองที่ผ่านมา มักใช้หลักประนีประนอม โดยโชว์บทบาทและศักยภาพรักษาการเป็นผู้นำประเทศได้ดี มีการประสานกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยตลอด พร้อมลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยด้วยรอยยิ้ม และประชาชนต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้ถูกยกเป็นเต็ง 1 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะมีบารมีศักยภาพ ปัจจัยและเครือข่ายสนับสนุนมากที่สุด แต่มีปัญหาด้านสุขภาพและมีอายุมาก อาจไม่ตอบสนอง หรือตอบโจทย์ประชาชนได้ตรงจุด

ในขณะที่การบริหารและพัฒนาของรัฐบาล ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชนได้เพราะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นรูปธรรมขณะเดียวกันถูกพรรคข้าราชการ ครอบงำ ควบคุมและขับเคลื่อนพัฒนาประเทศแทน ทำให้เกิดการทุจริต หรือคอร์รัปชั่นมากขึ้น ส่งผลให้การพัฒนาล่าช้า หรือล้าหลังกว่า 20 ปี ทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย และสิ้นหวังกับผู้นำประเทศ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา จึงต้องการคนรุ่นใหม่ เข้ามาบริหารประเทศแทน เพื่อกอบกู้สถานการณ์ และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับคืนมาอีกครั้ง

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้คนรุ่นใหม่ อาทิ นายพิธา น.ส.แพทองธาร หรือนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีโอกาสเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ โดยเฉพาะนายศักดิ์สยาม มีโอกาสสูงกว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. เนื่องจากมีความสุขุม นุ่มลึก เป็นน้องชายนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำ ภท. และครอบครัวเป็นนักการเมืองโดยสายเลือด ดังนั้นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทีมงาน และครอบครัวสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน ลำพังเพียงกระแสความนิยมตัวบุคคล หรือพรรคเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถนำไปสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศได้ ต้องมีปัจจัย หรือท่อน้ำเลี้ยงจากเครือข่ายสนับสนุนด้วย

หลายคนอาจสบประมาทว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนรุ่นใหม่ไม่มีประสบการณ์ บารมีไม่ถึง หรือเป็นละอ่อนทางการเมือง โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจต้องปรับทัศนคติ หรือความคิดใหม่ เพราะ น.ส.แพทองธารเป็นนักธุรกิจ สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาปรับใช้กับการเมืองได้ เช่นเดียวกับนายทักษิณที่เคยใช้วิธีดังกล่าวจนประสบผลสำเร็จมาแล้ว เพราะเป็นโลกยุคใหม่ ซึ่งผู้นำประเทศอย่างอังกฤษ นิวซีแลนด์ เป็นผู้หญิง หรือคนรุ่นใหม่ ที่ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีว่าไม่มีฝีมือ แต่พอรับตำแหน่งและทำงานไปสักระยะ ประชาชนกลับยอมรับฝีมือและผลงานเป็นอย่างดี เพราะตอบสนองความต้องการหรือตอบโจทย์ประชาชนได้

การเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ถือเป็นการสร้างความรับรู้แก่ประชาชน เพราะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และพรรคการเมือง ใกล้ชิดประชาชนอยู่แล้ว จึงเป็นทางเลือกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า พรรคที่นำเสนอ หรือชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การปฏิรูปประเทศและระบบราชการ ส่งเสริมประชาธิปไตยและกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการ มีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากที่สุด และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้าด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image