มุมมอง ‘นักวิชาการ’ ฝ่ายค้านยื่นยุบภูมิใจไทย

หมายเหตุความเห็นนักวิชาการกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวข้องกับนโยบายกัญชาเสรีเข้าข่ายพฤติกรรมที่นำไปสู่การยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 ในประเด็นการให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยไม่ชอบ

วีระ หวังสัจจะโชค
ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ตามหลักการพื้นฐานในการสร้างประชาธิปไตยในช่วงหลังสงครามโลกได้เกิดการวางกติกาในรัฐธรรมนูญขึ้นมาว่าจะต้องมีการปกป้องประชาธิปไตยด้วยการตรวจสอบรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดกลไกการยุบพรรคการเมืองที่เข้ามาทำลายรัฐธรรมนูญ หรือทำลายประชาธิปไตย เช่นพรรคขวาจัดอย่างพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน หรือพรรคนาซี หรือพรรคซ้ายจัดอย่างพรรคคอมมิวนิสต์ ก็จะอยู่ในเงื่อนไขกติกาในการยุบพรรคเพราะเป็นพรรคที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและทำลายประชาธิปไตย แต่เมื่อเรามาพิจารณาในเรื่องเกี่ยวกับกรณีการยุบพรรคการเมืองในประเทศไทย ก็จะพบว่าเมื่อประเทศไทยเราเอาหลักการนี้มาใช้โดยมีการบิดเบือนหลักการเล็กน้อยตรงที่การยุบพรรคนั้น แทนที่จะเป็นกติกาในการปกป้องประชาธิปไตยแต่กลายเป็นเกมทางการเมือง ซึ่งในอดีตเป็นเกมทางการเมืองของฝ่ายอนุรักษนิยมในการจำกัดอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง เช่น ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคอนาคตใหม่ เราก็จะพบว่าเป็นเกมการเมืองในการจำกัดอำนาจ ด้วยเหตุเช่นนี้เราก็ต้องมองว่านโยบายกัญชาเสรีเป็นปัญหาถึงระดับที่ขัดแย้งกับประชาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งจากตัวนโยบายเองมันไม่ถึงขนาดนั้น นโยบายอาจจะมีดีหรือไม่ดี มีประสิทธิภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพนั้นต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง คือประชาชนชอบหรือไม่หากประชาชนชอบและเห็นว่าเป็นประโยชน์ ประชาชนก็จะเลือกพรรคการเมืองนั้น แต่ถ้าประชาชนเห็นว่านโยบายกัญชาเสรีทำให้เกิดปัญหามาก ประชาชนก็จะไม่เลือกพรรค ภท. นี่คือความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ถึงขนาดเป็นความรับผิดชอบของทั้งพรรคการเมืองที่จะบอกว่านโยบายกัญชาเท่ากับการล้มล้างประชาธิปไตย

Advertisement

ผมคิดว่าตรงนี้ผิดฝาผิดตัว หากเป็นเรื่องของนโยบายกัญชาเสรีเพียงเรื่องเดียวมันเป็นประเด็นทางนโยบายซึ่งเป็นประเด็นทางการเมืองก็ต้องรับผิดชอบทางการเมือง หากมีการทำกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนหรือมีข้อเสนอที่ทำลายประชาธิปไตย เงื่อนไขดังกล่าวต่างหากที่จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ เพราะฉะนั้น นโยบายกัญชาเสรีหรือนโยบายอื่นยังไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ยุบพรรคได้ มิเช่นนั้นหากกรณียุบพรรคถูกยกมาใช้กับเรื่องนโยบายกัญชาเสรี ทุกพรรคการเมืองก็มีโอกาสถูกยุบพรรคได้หมดถ้าทำนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรัฐบาลที่มีนโยบายที่สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการหากนำเรื่องยุบพรรคมาใช้กับทุกเรื่องสุดท้ายรัฐบาลไม่ต้องทำอะไร ไม่ทำอะไรเลยก็จะไม่ผิดและไม่เดือดร้อน

หากมองเป็นเรื่องของการเมืองหรือมองว่าเป็นการตัดคู่แข่งนั้นผมคิดว่าเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมและเป็นวิธีที่เรียกว่าไม่ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ เพราะนโยบายกัญชาเสรีมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งด้วยลักษณะนี้มันจะแตกต่างกับการที่มีนโยบายที่ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ด้วยเหตุเช่นนี้ พรรค พท.จะใช้แค่ประเด็นนโยบายเสรีกัญชาเพื่อยุบพรรค ภท. มันจะกลายเป็นกระแสตีกลับว่า พรรค พท.มาเล่นเกมที่เป็นเกมลิดรอนทำลายพรรคการเมือง ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นพรรคการเมืองที่เจ็บปวดจากการถูกยุบพรรคมาโดยตลอดอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้พรรค พท.จึงควรจะต้องมองกลับกันว่าหากนโยบายไม่ดีก็ควรโจมตีนโยบายนั้น การจะยุบพรรคการเมืองควรจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ และต้องมีเงื่อนไขที่จำกัดมากๆ ซึ่งจุดนี้เองพรรค พท.ก็เป็นคนเสนอเองว่าจะยุบพรรคได้ก็ต่อเมื่อล้มล้างแผ่นดินหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ควรจะมีการยุบพรรคแบบง่ายๆ เพราะฉะนั้นพรรค พท.ก็ไม่ควรจะทำในสิ่งที่ตัวเองโดนกระทำมา

ส่วนใหญ่ในอดีตที่มีการยุบพรรคจะเกิดขึ้นเพราะมีการล้มล้างการปกครองและเป็นพรรคที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เช่น พรรคนีโอนาซี ในต่างประเทศก็จะมีกติกาในการที่จะยุบพรรคเหล่านั้นเพื่อไม่ให้มาระดมคนในการที่จะก่อความรุนแรงหรือลิดรอนสิทธิของประชาชนคนอื่น เงื่อนไขเหล่านี้เราสามารถที่จะนำเรื่องยุบพรรคมาพิจารณาได้ แต่ไม่ใช่แค่การที่นโยบายถูกตั้งคำถามและจะพูดถึงเรื่องยุบพรรคนั้นมันง่ายไป คิดว่าประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมาโดยที่พรรค พท.เองก็ไม่ได้ต้องการที่จะเล่นประเด็นนี้ ซึ่งเป็นประเด็นทางการเมืองที่ใครยกขึ้นมาก็ไม่ได้เปรียบในทางยุทธศาสตร์ พรรคการเมืองอย่างน้อยที่สุดต้องมองไปที่การแข่งขันทางการเลือกตั้งไม่ได้มองไปที่การยุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นอาวุธของฝ่ายอนุรักษนิยมหรือฝ่ายที่มาจากการรัฐประหาร

Advertisement

พรรคการเมืองควรจะถูกสร้างให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยุบได้ยากและเป็นพื้นที่ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม และคนเป็นนักการเมืองไม่ควรเสนอให้มีการยุบพรรคการเมืองอื่น แต่ควรเสนอให้มีการแข่งขันให้ชนะการเลือกตั้งมากกว่า

โคทม อารียา
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล

เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง เป็นการชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคหรืออะไรทำนองนี้ เพราะผมเคยชินกับยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมันหรือว่าอังกฤษ ไม่เห็นมีใครจะยุบพรรคกันง่ายๆ ไม่มี ยากมาก ของเราเอะอะอะไรก็ยุบ และยุบมาหลายครั้งแล้ว ยุบพรรคก็เป็นเรื่องทางการเมืองทั้งนั้น ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่ การเมืองต้องแข่งกันไป เป็นพรรคใดพรรคหนึ่งก็ว่ากันไป อย่างเช่น พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ควรไปยุบพรรคเขาอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมเห็นว่าเขาก็แสดงบทบาทไปแต่ผมไม่เห็นด้วยโดยหลักการของการยุบพรรคโดยเด็ดขาด โดยเหตุที่อ้างไปเรื่อยๆ การยุบพรรคข้อกล่าวหาแรงกว่านี้ก็ไม่เหมาะสมข้อกล่าวหาก็ปลีกย่อย

ทั้งนี้ เรื่องกัญชามีการเกรงอยู่ว่าทางภูมิใจไทยจะได้เปรียบทางการเมือง แต่เส้นแบ่งเป็นสีเทาๆ ระหว่างกัญชาเพื่อการแพทย์ กับกัญชาเพื่อบันเทิง เพราะทางภูมิใจไทยก็บอกว่าเพื่อทางการแพทย์อย่างเดียว แต่ประชาชนก็อาจไม่ได้ตีความอย่างนั้นอย่างเดียว ประชาชนก็บอกว่าดีมีกัญชา แต่ทุกคนก็บอกว่าระวัง อย่าค้าขายในเชิงให้คนเสพติด เรื่องนี้ไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีเส้นแบ่งสีเทาๆ นี้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะโจมตีใครในเรื่องอะไร

หลายกรณีที่ผ่านมาที่อาศัยข้อกล่าวหายุบพรรคและทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันทางการเมืองให้เกิดการพลิกผันอะไรต่างๆ สู้ด้วยการเลือกตั้งตรงไปตรงมาดีที่สุด การยุบพรรคไม่ใช่ในเฉพาะในกรณีนี้ ในกรณีอื่นๆ ก็เหมือนกัน พรรคเขาทำมาเกือบเป็นเกือบตายไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม มีสมาชิกและอื่นๆ ก็ปล่อยให้เป็นตามครรลอง ให้เขาหาเสียงกับประชาชน อย่าไปใช้วิธีนี้เลย

สดศรี สัตยธรรม
อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ช่วงนี้กำลังใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง แน่นอนว่าแต่ละพรรคการเมืองต้องแข่งขันกันโดยเฉพาะเรื่องนโยบายหาเสียงเลือกตั้งเป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว การแข่งขันนโยบายหาเสียงเลือกตั้งบางครั้งอาจมีการโจมตีกันได้ ซึ่งประเด็นกัญชาเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองที่เสนอเรื่องกัญชาเข้ามา อาจมองว่ามันเป็นอันตรายต่อประชาชน และบางครั้งประชาชนอาจนำไปใช้ไม่ถูกต้องไม่ได้นำกัญชามาใช้เพื่อบำบัดหรือรักษาโรค ทางพรรคเพื่อไทย (พท.) จึงเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่ควรใช้เรื่องกัญชามาเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง

เพื่อจูงใจประชาชน ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิสามารถเสนอความคิดเห็นกันได้ เพราะหากกฎหมายยังไม่ชัดเจน ก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อการใช้กัญชาในลักษณะที่ไม่ได้มีกฎหมายควบคุม และการปฏิบัติงานของผู้ที่ต้องทำหน้าที่กำกับการใช้กัญชาก็จะยากลำบาก

ส่วนเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรค ภท.ได้หรือไม่ ส่วนตัวยังมองว่ามันยังก้ำกึ่ง เพราะขณะนี้กฎหมายอนุญาตให้ครอบครองและปลูกกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เมื่อมีกฎหมายอย่างนี้ไว้แล้ว การที่ กกต.จะเอาเหตุผลของการมีนโยบายเรื่องนี้ไปยุบพรรคการเมืองคงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถกระทำได้หากพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติยื่นเรื่องต่อ กกต. เชื่อได้ว่ากกต.คงไม่สามารถพิจารณาสั่งยุบพรรค ภท.ได้ เพราะการจะพิจารณาสั่งยุบพรรคการเมืองได้ พรรคการเมืองนั้นต้องดำเนินการสิ่งใดที่เป็นการทำลายต่อสิทธิและเสรีภาพประชาชน หรือล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ขณะนี้กฎหมายอนุญาตให้ครอบครองกัญชาได้และปลูกกัญชาได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีกฎหมายลูกมารับรองกระบวนการต่างๆ เท่านั้นเอง

ดังนั้น หากพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อ กกต. จึงมองว่าคงไม่ถึงขั้นทำให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคภูมิใจไทยได้ ซึ่งการพูดแบบนี้ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่พิจารณาจากหลักกฎหมายและมองเห็นแล้วว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น ไม่ได้รุนแรงหรือเป็นการทำลายชาติบ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทุกนโยบายของพรรคการเมือง อยากให้ กกต. ต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image