พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งตามกระแสข่าวระบุว่า หลังเวลาราชการ วันที่ 9 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าไปร่วมงานของพรรครวมไทยสร้างชาติและสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภายหลังจากเมื่อปลายปี 2565 พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคดังกล่าว ซึ่งถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ก้าวเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2557 ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. บริหารจัดการประเทศจนกระทั่งปี 2562 มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งมีบทบัญญัติให้วุฒิสภาที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช. จำนวน 250 คน มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากการเลือกตั้งปี 2562 ผ่านพ้น แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากที่สุด แต่พรรคพลังประชารัฐซึ่งมี ส.ส.เป็นอันดับสองสามารถรวบรวม ส.ส.ในสภาได้มากกว่าจึงได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และได้รับเสียงสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.อย่างท่วมท้น
แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง แต่ก็ยังมีข้อครหาว่ามีที่มาไม่สอดคล้องกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้าสภาเพื่อตอบข้อซักถามในญัตติสำคัญอย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาหลายครั้ง รวมทั้งการผ่านร่าง พ.ร.บ.สำคัญๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องเป็นผู้นำเสนอต่อสภา ถือเป็นการขยับจากหัวหน้าคณะรัฐประหารที่มีอำนาจเต็มมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องฟังเสียงสภา
กระทั่งวาระของรัฐบาลปัจจุบันกำลังครบเทอม แม้ว่าการเลือกตั้งในปีนี้ ส.ว.จะยังมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี แต่การพ้นจากอำนาจเบ็ดเสร็จของการรัฐประหาร มาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องอาศัยอำนาจของรัฐสภา ก็ทำให้สถานการณ์หลายอย่างเปลี่ยนแปลง การบริหารราชการแผ่นดินบั่นทอนความน่าเชื่อถือในการบริหารของรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นแกนนำมีความขัดแย้งภายใน จนในที่สุดคนในพรรคแบ่งแยกเป็นกลุ่มเลือก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับกลุ่มเลือก พล.อ.ประยุทธ์ แล้วในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจรับเป็นแคนดิเดตนายกฯให้พรรครวมไทยสร้างชาติ และยอมเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เท่ากับว่าสถานการณ์ต่างๆ กำลังเริ่มกลับคืนสู่ระบบประชาธิปไตย ประชาชนที่สูญเสียอำนาจไปตั้งแต่ปี 2557 กำลังได้รับกลับคืน
