เสียงร่ำร้อง ‘ยุบสภา’ สุญญากาศรอเลือกตั้ง

หมายเหตุความเห็นนักวิชาการกรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรออกมาเรียกร้องให้ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รีบยุบสภาเพราะ ส..ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นเหตุให้สภาล่มบ่อย 

โอฬาร ถิ่นบางเตียว
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา

มองว่าเป็นโค้งสุดท้ายทางการเมือง และคิดว่าพรรคภูมิใจไทยต้องการแสดงบทบาท ทางการเมืองให้เห็นว่าตัวเองเป็นอิสระ และส่งภาพลักษณ์ไปถึงรัฐบาลข้างหน้าด้วย เนื่องมาจากมีกระแสว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา และจะสนับสนุน พล..ประยุทธ์ หากทำได้ 25 เสียง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยขาดอิสระ การแสดงบทบาทครั้งนี้ ได้สะท้อนภาพของพรรคภูมิใจไทย มีความเป็นอิสระกับรัฐบาลค่อนข้างมาก และในทางการเมืองนั้นไม่มีใครครอบงำใคร สถานการณ์แบบนี้เป็นการส่งสัญญาณในฐานะสร้างอำนาจการต่อรองที่สูงขึ้น พรรคภูมิใจไทยจึงประกาศว่าหากรัฐบาลไปไม่ไหวก็ยุบสภาเสียเถอะ อีกมุมหนึ่งพรรคภูมิใจไทยแสดงออกมาว่าวิปรัฐบาล ไม่สามารถผนึกกำลังกัน ในการที่จะทำให้สภาประชุมได้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณในแง่ของสภาและในแง่ของการเมืองที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า

Advertisement

การแสดงออกของพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้เป็นสัญญาณหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่จุดชี้ขาด แต่เป็นการยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นอิสระต่อพรรคการเมืองอื่นๆ การที่จะร่วมมือกันต่อไป ไม่ใช่เป็นเรื่องของพันธะสัญญา ส่วนพรรคใดจะได้คะแนนเสียงเท่าใด เป็นเรื่องของผลการเลือกตั้ง ประกอบกับพรรคภูมิใจไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล และประการต่อมาทำให้สมการทางการเมือง มีการประเมินกันว่าโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ และไม่สามารถร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ โอกาสที่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ จะรวมตัวในการจัดตั้งรัฐบาลสูง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการส่งสัญญาณไปได้ทั้งหมด

ส่วนกรณีปัญหาร่าง พ...กัญชา ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยหมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นนโยบายสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าหากให้ร่างผ่าน อย่างไรก็ตามจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคของ พล..ประยุทธ์จะต้องทำงานหนัก หากจะแก้ไขปัญหาให้กับพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลก็จะต้องร่วมด้วยช่วยกันให้ร่าง พ...กัญชาผ่าน จึงจะเป็นโอกาสและสัญญาที่จะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า

แต่ถ้าหาก พล..ประยุทธ์จะลอยตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย จนทำให้ร่าง พ...กัญชาตกไป ก็จะส่งกระทบต่อสัมพันธภาพระยะยาวของพรรคภูมิใจไทยกับ พล..ประยุทธ์ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ที่สำคัญร่าง พ...กัญชามองดูแล้วไม่มีห้วงเวลาที่แน่นอนที่จะผ่านกฎหมาย ซึ่งจะทำให้พรรคภูมิใจไทยจะต้องกดดันรัฐบาล และสภา จนถึงโค้งสุดท้ายจนกว่าจะปิดการประชุมก็จะส่งผลให้วิปรัฐบาลจะต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ร่าง พ...กัญชาผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็จะมีแรงกดดันขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

โอกาสเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยคิดว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนพรรคที่ชนะการเลือกตั้งจะออกมามีผลเป็นอย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐจะต้องมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่แลนด์สไลด์ก็ตาม หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 2 ข้างจะปฏิเสธพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ คิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลในสมัยหน้าแน่นอน

ส่วนกระแสสูตรจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าประกอบไปด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย หากดูสมการ ภูมิทัศน์ทางการเมืองขณะนี้ ท่าทีของพรรคก้าวไกลปฏิเสธพรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบกับพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ จัดตั้งพรรครัฐบาลเพียงพรรคเดียว โดยได้ ส..เกิน 400 คน มีความเป็นไปได้น้อย โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย ที่สำคัญก็ยังมีอุปสรรคสำคัญคือ ส.. ถึงแม้ว่าจะรวมพรรคพลังประชารัฐเข้าไปแล้ว ไม่ใช้เสียง ส..ก็สามารถทำได้ แต่ในกระบวนการบริหารรัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องพึ่งพา ส..จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องพึ่งพาบารมีของ พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะยังคุม ส..อยู่ส่วนหนึ่ง ในทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า โอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทยจะจัดตั้งรัฐบาล ในขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์อาจจะต้องไปเป็นฝ่ายค้าน

ช่วงนี้พรรคภูมิใจไทยไม่ค่อยขยับตัวเกี่ยวกับการดึงนักการเมืองเด่นๆ เข้าพรรค คาดว่าจะมีความอิ่มตัวมากแล้ว จึงไม่ขยับอะไรมาก โดยมีการประเมินสถานการณ์ โอกาสที่จะได้รับชัยชนะและจำนวน ส..มีความพอเพียงในตัวเลขที่คาดว่าจะได้ และอีกประการหนึ่งรอเปิดตัวนโยบาย รอเปิดตัวผู้สมัคร ส..อย่างเป็นทางการ หลังจากมีการยุบสภา นอกจากนี้พรรคภูมิใจไทยคงรอดูสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยให้ทำงานเต็มที่ โดยเฉพาะการแก้เกมทางการเมืองกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาเปิดโปงรายวัน โดยพรรคภูมิใจไทยพยายามอยู่ในจุดสมดุลทางการเมือง เพื่อจะรอจังหวะเข้าไปเสียบก็เท่านั้นเอง

สำหรับการดูด ส..ครั้งสุดท้ายคิดว่าพรรคภูมิใจไทยคงไม่มีแล้ว คงจะมีเพียงพรรคเพื่อไทยต้องทำอยู่ รวมทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะต้องใช้สรรพกำลังจำนวนมากในการที่จะดึงตัว ส..ที่มีคุณภาพและได้รับการเลือกตั้ง หากดูแล้วโอกาสที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้เกิน 25 เสียงมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ความเหมาะสมความสง่างาม 25 ที่นั่งคงไม่พอ ต้อง 50 ที่นั่งขึ้นไป จึงทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติต้องดูด ส..และนักเลือกตั้งให้เข้าพรรคมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการสืบทอดอำนาจต่อไป ภายใต้กติกาการเลือกตั้ง

อัคค์สัจจา ดวงสุภาสิญจ์
อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา

ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเกมการเมือง เป็นการแสดง เล่นละครตบตาประชาชน เพราะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทราบดีอยู่แล้วว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนร่าง พ...กัญชาฯ มากนัก เพราะเป็นผลงานและชูเป็นนโยบาย เพื่อเรียกคะแนนเสียงเลือกตั้งสมัยหน้า จึงสกัดกระแสความนิยมและท่อน้ำเลี้ยง ภท. เพื่อไม่ให้ชนะเลือกตั้งดังกล่าว

ร่างกฎหมายกัญชาถือเป็นกลยุทธ์ อาวุธเด็ดนายอนุทินและพรรค ภท. เพราะมีกระแสตอบรับดีจากประชาชนรากหญ้า และเครือข่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายกัญชาเสรี สร้างเม็ดเงินได้มหาศาล สามารถฟื้นกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ ส่งผลให้นโยบายพรรคอื่นเสียเปรียบ และต้านกระแสไม่อยู่ แต่ไม่เชื่อว่า พล..ประยุทธ์และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ตอบสนองการยุบสภาโดยเร็ว ตามข้อเรียกร้อง ภท.เพราะยังเหลือเวลาเกือบ 2 เดือน ก่อนรัฐบาลครบวาระ วันที่ 23 มีนาคมนี้ ยังสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เพื่อสะสมเป็นทุนหรือเสบียง ไว้สู้ศึกเลือกตั้งด้วย

ในมุมกลับกันข้อเสนอ ภท. อาจเป็นแค่การโยนหินถามทาง เพื่อเตรียมพร้อมสู่สนามรบเลือกตั้ง ที่มีแนวโน้มแข่งขันแบบดุเดือด รุนแรงมากขึ้น ในความเป็นจริง เชื่อว่า ภท.ไม่อยากยุบสภาโดยเร็ว เพราะอยู่ระหว่างสะสมทุนเลือกตั้งเช่นกัน ที่สำคัญยังใช้นโยบายรัฐบาลหาเสียงได้อยู่ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน กระทรวงคมนาคม และระบบสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ที่พรรค ภท.ดูแลอยู่ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นยุบสภาดังกล่าวเพียงรอจังหวะที่เหมาะสม เพื่อชิงความได้เปรียบพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เพราะพรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ชูนโยบายประชานิยมและรัฐสวัสดิการ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายประชาชนรากหญ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน

ประเด็นพรรค ภท.เรียกร้องยุบสภา โดยใช้ข้ออ้างเรื่องกัญชานั้น เพื่อสื่อสารไปยังประชาชนและเครือข่ายสนับสนุนว่า ได้ผลักดันเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจาก พล..ประยุทธ์และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อโยนความผิดไปยังคู่ต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ทำให้เกิดกระแสสงสารและสนับสนุนพรรค ภท.มากขึ้น ส่งผลให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า และอาจได้นายอนุทินเป็นผู้นำประเทศคนที่ 30 โดยเขี่ย พล..ประยุทธ์และ พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากวงโคจร แบบใจสลายแทน

บทสรุป เชื่อว่า ภท.ยังไม่พร้อมเลือกตั้งเพราะยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไม่หมดเพียงสร้างกระแส และชิงพื้นที่สื่อเท่านั้น พร้อมทำทุกอย่าง เพื่อได้รับชัยชนะในวันข้างหน้า ดังนั้น การตอบโต้ ล้างแค้นพรรคร่วมรัฐบาล จึงเป็นเพียงวาทกรรมและกลยุทธ์หลอกล่อคู่ต่อสู้ให้หลงทาง และเดินไปตามเกมการเมือง ภท.เท่านั้น

จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ  
นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์

ขณะนี้สถานภาพของสภาผู้แทนราษฎร หากเทียบกับช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งจะมีธงเตือนภัยเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง ขณะนี้สถานการณ์ของสภาอยู่ในเกณฑ์ธงแดง คือไม่มีความสุขในการนั่งประชุมแล้ว การที่ทางพรรคภูมิใจไทยมีส่วนในการกดดันให้ยุบสภานั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเรื่องของกฎหมายกัญชา ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาเสียที เช่นเดียวกับอีกหลายพรรคที่เห็นว่า เสนอกฎหมายเข้าสภาเห็นว่าคงไปไม่ได้ เดินหน้าไม่ได้ ก็ควรยุติตรงนี้ก่อน ซึ่งก็มีหลายร่าง กฎหมายที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ประชาชน หรือพรรคอื่นๆ สถานการณ์เช่นนี้ก็คงต้องฟรีซต้องแช่เย็นเอาไว้ตรงนี้ก่อน ดังนั้นการแสดงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ต่อการยุบสภา ก็คงเห็นชัดแล้วว่ากฎหมายที่เสนอไป ไม่สามารถที่จะผลักดันได้แล้ว

ส่วนพฤติกรรมของ ส..ที่ไม่เข้าประชุมสภา เท่ากับไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง มองว่า ส..ขาดอยู่ 2 คำ คือ หน้าที่การเป็นผู้แทนของประชาชน โดยไม่ทำหน้าที่ ไม่แสดงความรับผิดชอบในหน้าที่ กำลังมองไปในอนาคตว่าทำอย่างไรตัวเองจะได้กลับมาเป็น ส..อีก ห่วงอนาคตของตัวเองมากกว่า พฤติกรรมแบบนี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม อย่าลืมว่าการประชุมสภาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง เพียงแค่เปิดเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมขนาดใหญ่ แต่เมื่อเปิดไว้การประชุมกลับไม่เกิดขึ้น สภาก็ล่ม ล่มแล้วล่มอีก นอกจากนั้นกรรมาธิการชุดต่างๆ ก็โดดร่ม ส..ทั้งหลายไม่ได้ทำหน้าที่ ไม่ได้รับผิดชอบในหน้าที่กำลังเอาเปรียบประชาชนในเรื่องการทำหน้าที่งบประมาณ เงินเดือนที่ทำหน้าที่ในตำแหน่ง ส..เดือนละเท่าไหร่ แต่ท่านทำงานให้ประชาชนคิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่ เหล่านี้การเลือกตั้งครั้งถัดไปประชาชนคงต้องนำมาประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนน

ขณะนี้สถานการณ์เหมือนกึ่งๆ สุญญากาศ เพราะเรามี ส..ก็เหมือนไม่มี ซึ่ง กกต.เองก็ควรมีความพร้อมว่าหากยุบสภาแล้วจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด โดยส่วนตัวมองว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา ก็ต่อเมื่อตัวนายกฯรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมมากที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image