“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันก่อนให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์รายการหนึ่งมีประเด็นน่าสนใจ “ลุงป้อม” เปิดเผยกลยุทธ์ในการทำงานที่ประสบความสำเร็จโดยบอกว่า มีเทคนิคในการบริหารคือ เร็ว ช้า หนัก เบา เร็ว คือ คิดเร็ว ทำเร็ว ตัดสินใจเร็ว ช้า คือ ผมเดินช้า หนัก คือ ผมเป็นคนหนักแน่น ไม่หูเบา และ เบา คือ ผมเป็นคนไม่มีภาระ ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีห่วง ไม่ต้องสะสมไว้เพื่อใคร ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อส่วนรวมอย่างเดียว ได้ฟัง “ลุงป้อม” พูดแบบนี้ยิ่งน่าสนใจ กลยุทธ์การทำงานที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ดูช่างเรียบง่ายแต่มีคุณค่าและมีพลังในการทำงานอย่างเหลือเฟือ
“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ตื่นเช้าตั้งแต่ตี 4 เริ่มทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ทุกวัน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ถึงขาผมจะไม่ดี แต่ขาสองข้างนี้ได้พาผมลงพื้นที่ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อช่วยประชาชนแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน และการบริหารจัดการน้ำนั้น ที่ผ่านมาในระยะเวลา 8 ปี “ลุงป้อม” เดินทางไปทุกจังหวัดเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนโดยมี ผลงานเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จดังที่ยกตัวอย่าง การจัดการน้ำที่สามารถทำให้ประเทศไทยไม่ประสบกับภาวะภัยแล้งมาตั้งแต่ปี 63 ถึง 65 การจัดสรรที่ดินทำกินที่สามารถช่วยเกษตรกรให้มีอาชีพ มีรายได้ มีที่ทำกินเป็นของตัวเองโดยนำเอาศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทาง ให้มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง มีการตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนช่วยเหลือตนเองในทุกภาค นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายสามารถปลดใบเหลืองจาก สหภาพยุโรป จนประเทศไทยไม่ต้องถูกกีดกันทางการค้าในการส่งออกสินค้าประมง การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่สามารถยกระดับจากเทียร์ 3 ขึ้นมาสู่เทียร์ 2 จนนานาประเทศยอมรับ
แม้แต่เรื่องเศรษฐกิจ “ลุงป้อม” ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติสามารถดันราคาปาล์มขึ้นสูงสุดจนเกือบแตกกิโลกรัมละ 15 บาทมาแล้ว จนชาวสวนปาล์มพากันชื่นชมและเข้ามาขอบคุณ “ลุงป้อม” ถึงในทำเนียบรัฐบาล
ผลงานต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นหลักประกันสำหรับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สามารถใช้ใจบันดาลแรงให้ มีแรงทำงานทั้งที่อายุถึง 78 ปีแล้ว เพียงแต่อายุไม่ใช่เป็นอุปสรรคตามที่ “ลุงป้อม” ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หมอประจำตัว บอกว่า ร่างกายผมยังฟิตเปรี๊ยะ สามารถทำงานไปได้อีก 4 ปีสบายๆ แสดงความมั่นอกมั่นใจว่าอยากเข้ามาทำงานเพื่อช่วยประชาชนให้มีความกินดีอยู่ดีและก้าวข้ามความขัดแย้ง ให้คนไทยรักกันร่วมมือกันทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
ใกล้วันเลือกตั้งเข้ามาเท่าไหร่การเมืองยิ่งเข้มข้น ตัวตนของนักการเมืองแต่ละคนย่อมเปิดเผยให้เห็นถึงอุดมการณ์และความมุ่งมั่น เฉกเช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เคยเห็นในบทบาทของนายทหารผู้มากบารมีในกองทัพ จนในปัจจุบันได้เห็นถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของ “ลุงป้อม” ที่มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ชอบทำอาหารทานเอง เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ทำงานให้ประชาชนโดยมีผลงานในอดีตที่ผ่านมาและความตั้งใจในปัจจุบันเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ผลจะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชนในวันเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงอีกไม่นาน
