บทนำวันพฤหัสบดีที่1มิถุนายน2566 : เกาะติดตั้งรัฐบาล
ประชาชนได้ทำหน้าที่ของตัวเองในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว มีผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยสมาชิกจากพรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จำนวน 151 คน มากที่สุด จึงได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองอีก 7 พรรค รวมแล้วได้ 312 เสียง กลายเป็นความหวังของประชาชนที่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน บรรดาพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลก็ขับเคลื่อนการจัดตั้งรัฐบาล มีการร่วมลงนามในเอ็มโอยู และเจรจาแบ่งตำแหน่งต่างๆ โดยตกลงกันว่าจะสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้น คล้ายๆ กับตอกย้ำว่าหลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ทั้งๆ ที่ในขณะนี้ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีก็มีการประชุมกันตามปกติ แต่อำนาจการปฏิบัติงานของคณะรัฐมนตรีมีไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายพิธานั้นยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และอยู่ระหว่างการหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาให้ได้ครบ 376 เสียงตามที่คาดหวัง
แม้ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านแต่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลใหม่ที่จะลงมือปฏิบัติตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ห้วงเวลานี้เกิดกระแสข่าวมากมาย เส้นทางสู่นายกรัฐมนตรีของนายพิธายังมีความไม่แน่นอน การตกลงในเรื่องตำแหน่งสำคัญทางการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น ทุกอย่างยังอยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนพลิกได้ตลอดเวลา
สำหรับประชาชนที่เพิ่งไปทำหน้าที่หย่อนบัตรเลือกตั้งจึงยังมีหน้าที่ต่อเนื่อง คือ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากการเลือกตั้ง เฝ้าดูว่าเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้แสดงออกไปผ่านการเมืองเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนั้นจะสัมฤทธิผลได้มากน้อยเพียงใด ถือเป็นหน้าที่ของประชาชนที่มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งที่ผ่านมาถูกมองว่าประชาชนมีอำนาจแค่หย่อนบัตร แต่ต่อไป หากประชาชนติดตามการจัดตั้งรัฐบาล แสดงความคิดเห็นและประเมินผลการทำงานของรัฐบาลใหม่เป็นระยะๆ จะทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน ไปพร้อมๆ กัน
